World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 11 กรกฎาคม 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 11, 2018 09:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 143.07 จุด หรือ +0.58% เมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน ขณะที่หุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคปรับตัวขึ้นขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเป๊ปซี่โค อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าร่วงลงกว่า 200 จุดในช่วงเช้านี้ตามเวลาไทย บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวลงในคืนนี้ หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์

-- รัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ โดยจะเรียกเก็บในอัตรา 10% ซึ่งครอบคลุมถึงสินค้าจำนวน 6,031 รายการ ตั้งแต่สินค้าเพื่อผู้บริโภคไปจนถึงสินค้าด้านการเกษตร หลังจากสหรัฐและจีนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาททางการค้า โดยคาดว่ามาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมในครั้งนี้จะมีผลบังคับใช้ในเดือนก.ย.

นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) กล่าวว่า การที่จีนใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้า และไม่ยอมเปลี่ยนแปลงการดำเนินนโยบายการค้า ปธน.ทรัมป์จึงมีคำสั่งให้ USTR เริ่มกระบวนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ ในอัตรา 10%

-- สำนักงานคณะรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภค ปรับตัวลดลง 3.7% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 9.079 แสนล้านเยน หรือประมาณ 8.2 พันล้านดอลลาร์

ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานถือเป็นดัชนีวัดการใช้จ่ายด้านทุนของบริษัทเอกชนญี่ปุ่น โดยที่ผ่านมานั้น บริษัทเอกชนญี่ปุ่นได้เพิ่มการใช้จ่ายเพื่อขยายศักยภาพด้านการผลิตในเพียงพอรองรับอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในต่างประเทศ และได้นำเครื่องจักรมาใช้แทนคนในการทำงาน เพื่อรองรับภาวะขาดแคลนแรงงานภายในประเทศ

-- เทสลา มอเตอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐ ประกาศสร้างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งแรกนอกสหรัฐที่นครเซี่ยงไฮ้ของจีนในวันนี้

ทั้งนี้ นายอีลอน มัสก์ ประธานบริษัทเทสลา และนายหยิง หย่ง นายกเทศมนตรีเซี่ยงไฮ้ ได้เข้าร่วมในพิธีลงนามข้อตกลงสร้างโรงงานผลิตรถยนต์เทสลาในวันนี้

เทสลาระบุว่า การก่อสร้างโรงงานจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า ทันทีที่บริษัทได้รับใบอนุญาตอย่างเป็นทางการ โดยการผลิตรถยนต์จะเริ่มต้นหลังจากนี้ 2-3 ปี ขณะที่บริษัทมีเป้าหมายผลิตรถยนต์ 500,000 คันต่อปี

-- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตำแหน่งงานนอกภาคเกษตรที่เปิดรับสมัครโดยสถานประกอบการในสหรัฐลดลงสู่ระดับ 6.6 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. จากระดับ 6.8 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่มีคนว่างงานเพียง 6 ล้านคน

กระทรวงระบุว่า ตำแหน่งงานว่างในเดือนพ.ค.มีจำนวนมากกว่าคนว่างงานเป็นครั้งที่ 2 ในรอบกว่า 20 ปี

-- ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 156 รายแล้วเมื่อคืนนี้ ขณะที่ยังคงมีผู้สูญหายจำนวน 60 ราย หลังเกิดน้ำท่วมและดินถล่ม ซึ่งได้สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือน และมีประชาชนได้รับผลกระทบจำนวนมาก

-- ทางการจีนสั่งอพยพประชาชนกว่า 52,000 คนในจังหวัดเจ้อเจียงเมื่อวานนี้ และมีคำสั่งให้เรือประมงมากกว่า 20,700 ลำกลับเข้าฝั่ง ขณะที่พายุไต้ฝุ่น"มาเรีย"จ่อถล่มชายฝั่งตะวันออกของจีน

กรมอุตุนิยมวิทยาของจังหวัดฟูเจี้ยนระบุว่า พายุมาเรียอาจเคลื่อนตัวผ่านตอนเหนือของไต้หวัน ก่อนที่จะพัดเข้าสู่จังหวัดฟูเจี้ยนในเช้าวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะทำให้เกิดลมกรรโชกแรง คลื่นสูง และฝนตกหนัก

-- กระทรวงพาณิชย์ของจีนแถลงเมื่อวานนี้ว่า จีนจะปรับเพิ่มอากรต่อต้านการทุ่มตลาด (AD) ต่อไฟเบอร์ออปติกที่นำเข้าจากสหรัฐ

กระทรวงระบุว่า จีนจะปรับเพิ่มอัตราอากรดังกล่าวจากระดับ 4.7-18.6% สู่ระดับ 33.3-78.2% โดยมีผลบังคับใช้ในวันนี้

-- บริษัทเป๊ปซี่โค เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร และรายได้ในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ บริษัทเปิดเผยว่ามีกำไร 1.61 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.52 ดอลลาร์/หุ้น

นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 1.609 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.604 หมื่นล้านดอลลาร์

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าติดตามในวันนี้ได้แก่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย. สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐ

สำหรับในวันพรุ่งนี้ จะมีการเปิดเผยการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนมิ.ย. และยอดปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวนเดือนมิ.ย.ของจีน รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย. ของเยอรมนีและฝรั่งเศส


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ