วุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยการลงคะแนนเสียง 88-11 เพื่อสั่งให้มีการระบุบทบัญญัติในการมอบอำนาจแก่สภาคองเกรส เมื่อฝ่ายบริหารมีการประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ
-- นายหวัง ชูเหวิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีนออกมาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สหรัฐร่วมแก้ปัญหาความขัดแย้งด้านการค้า ผ่านการเจรจาทวิภาคีรอบใหม่ โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวสอดคล้องกับที่มีรายงานข่าวก่อนหน้านี้ว่า คณะทำงานของปธน.ทรัมป์ก็เต็มใจที่จะหันหน้าเจรจากับจีนเช่นกัน นอกจากนี้ ยังถือเป็นสัญญาณบวก หลังจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐและจีนแทบไม่ได้สื่อสารกันนับตั้งแต่การเจรจาอย่างเป็นทางการรอบที่สามประสบความล้มเหลวในช่วงต้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
-- สมาคมผู้ผลิตยานยนต์ของจีน (CAAM) เปิดเผยว่า ยอดการผลิตรถยนต์ในเดือนมิ.ย.อยู่ที่ระดับ 2.2896 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 5.77% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนยอดขายรถยนต์ในเดือนมิ.ย.อยู่ที่ระดับ 2.2737 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 4.79% เมื่อเทียบเป็นรายปี และหากเทียบรายเดือน ยอดการผลิตรถยนต์เดือนมิ.ย.ลดลง 2.33% ส่วนยอดขายลดลง 0.61% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ของจีนได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งผลกระทบจากการที่รัฐบาลจีนใช้มาตรการคุมเข้มด้านการปล่อยกู้ในภาคธนาคาร เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของตัวเลขหนี้สิน
-- สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า บริษัท วอลมาร์ท อิงค์ ได้ตัดสินใจขายกิจการ "เซยู จีเค" ซึ่งเป็นธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือของวอลมาร์ทในประเทศญี่ปุ่น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3-5แสนล้านเยน ท่ามกลางการแข่งขันอย่างดุเดือดในอุตสาหกรรมค้าปลีกออนไลน์
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า จะมีการออกคำสั่งยกเลิกคำสั่งห้ามบริษัท ZTE เมื่อบริษัท ZTE ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการสื่อสารรายใหญ่ของจีนวางเงินประกันมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์
-- นายอิลเดฟองโซ กัวจาร์โด รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของเม็กซิโก เปิดเผยว่า การประชุมข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือ NAFTA ครั้งต่อไป จะจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตันในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนก.ค.
-- องค์การวิสาหกิจของสิงคโปร์ (Entreprise Singapore) เปิดเผยว่า นายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ และนายมูน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้ร่วมเป็นพยานในการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศ เพื่อเสริมสร้างพันธมิตรใหม่ที่มุ่งผลักดันความร่วมมือและสร้างนวัตกรรมร่วมกันระหว่างภาคเอกชนของเกาหลีใต้และสิงค์โปร์ โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง รวมถึงเหล่าสตาร์ทอัพ
-- บริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง ซึ่งเป็นผู้ประกอบการสินค้าแบรนด์ "ยูนิโคล่" เปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. พุ่งขึ้น 23.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แตะที่ระดับ 1.4834 แสนล้านเยน (ประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์) โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายที่แข็งแกร่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ