World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 19 กรกฎาคม 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 19, 2018 17:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยในรายงานวิเคราะห์ว่า หากสหรัฐมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์แล้ว สงครามการค้ากับสหรัฐครั้งนี้อาจทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่นหดตัวลงมากถึง 0.6%

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียรายงานในวันนี้ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้น 50,900 ตำแหน่ง สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 16,500 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานเดือนมิ.ย.อยู่ที่ระดับ 5.4% ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ ส่วนการจ้างงานเต็มเวลาปรับตัวขึ้น 41,200 อัตรา ขณะที่การจ้างงานพาร์ทไทม์เพิ่มขึ้น 9,700 อัตรา

-- สำนักงานการท่องเที่ยวญี่ปุ่นเปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเยือนญี่ปุ่นในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้ พุ่งขึ้น 15.6% จากปีก่อน แตะที่ 15.89 ล้านคน ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับช่วงครึ่งปี ซึ่งถ้ายังรักษาอัตราเติบโตนี้ไว้ได้ จำนวนนักท่องเที่ยวจะทำสถิติทะลุ 30 ล้านคนได้เป็นครั้งแรกในปีนี้

-- สำนักงานบริหารเงินตราต่างประเทศของจีน (SAFE) รายงานว่า ธนาคารพาณิชย์ของจีนได้เปิดเผยยอดซื้อสกุลเงินตราต่างประเทศในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ โดยธนาคารของจีนได้เข้าซื้อสกุลเงินต่างประเทศมูลค่า 9.28 แสนล้านดอลลาร์ และจำหน่าย 9.14 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย. ส่งผลให้ยอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 1.38 หมื่นล้านดอลลาร์

-- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเบื้องต้นในวันนี้ว่า ยอดเกินดุลการค้าสินค้าในเดือนมิ.ย.อยู่ที่ระดับ 7.214 แสนล้านเยน หรือประมาณ 6.4 พันล้านดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนส่วนหนึ่งจากการเพิ่มขึ้นของยอดส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ไปยังประเทศจีน ขณะที่ยอดส่งออกในเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้น 6.7% เทียบเป็นรายปี ส่วนยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.5% โดยได้ปัจจัยหนุนจากยอดนำเข้าน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น

-- กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐได้เริ่มดำเนินการตรวจสอบผลกระทบด้านความมั่นคงของชาติจากการนำเข้ายูเรเนียม ซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกเก็บภาษีและกำหนดโควต้านำเข้าใหม่

-- ทำเนียบขาวได้เซ็นสัญญาซื้อเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน 2 ลำ มูลค่า 3.9 พันล้านดอลลาร์ จากบริษัทโบอิ้ง โดยเครื่องบินลำใหม่จะส่งมอบพร้อมใช้งานภายในปี 2567 เพื่อเปลี่ยนกับลำเก่าที่ใช้งานมา 31 ปีแล้ว

-- สหภาพยุโรป (EU) ประกาศใช้มาตรการปกป้องการนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็ก เนื่องจากความกังวลว่าจะมีผลิตภัณฑ์เหล็กจำนวนมากทะลักเข้าตลาด EU ซึ่งเป็นผลจากการเรียกเก็บภาษีเหล็กของสหรัฐเพิ่มเติมเมื่อเร็วๆ นี้

-- นายมาห์มุด แวซี เสนาธิการประธานาธิบดีอิหร่าน เปิดเผยว่า นายฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีของอิหร่านได้รับคำเชิญ 8 ครั้งจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ให้เข้าร่วมการพบปะหารือ

-- ธนาคารเพื่อการพัฒานแห่งเอเชีย (ADB) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 6.6% ในปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ และคาดว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 6.4% ในปี 2562 เนื่องยอดค้าปลีกที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และการลงทุนในภาคการผลิต

-- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐกว่า 140 คน ได้ลงนามในจดหมายถึงนายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยุติการตรวจสอบผลกระทบด้านความมั่นคงที่เป็นผลมาจากการนำเข้ารถยนต์ โดยข้อความในจดหมายมีใจความว่า "อุตสาหกรรมรถยนต์ได้ฟื้นตัวจากช่วงเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ และในบางส่วนของอุตสาหกรรมก็มีการจ้างงานสูงกว่าช่วงก่อนเศรษฐกิจถดถอดเสียอีก แต่การเรียกเก็บภาษีนำเข้า หรือมาตรการเข้มงวดด้านอื่นๆที่นำมาใช้ต่ออุตสาหกรรมรถยนต์และ/หรือชิ้นส่วนรถยนต์นั้น กำลังส่งผลกระทบต่อแนวโน้มอุตสาหกรรมดังกล่าว"

-- ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ได้เปิดเผยรายงาน "Asian Development Outlook" ในวันนี้ โดย ADB ยังคงคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย ปี 2561 และ 2562 เอาไว้ที่ระดับ 6.0% และ 5.9% ตามลำดับ พร้อมเตือนว่า นโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐและมาตรการตอบโต้จากจีนอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจในประเทศกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง

-- ทางการญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกสินค้าของญี่ปุ่นไปยังสหรัฐในเดือนมิ.ย.ลดลง 0.9% เทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 17 เดือน เนื่องจากภาคธุรกิจญี่ปุ่นมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐ ส่วนยอดนำเข้าสินค้าจากสหรัฐปรับตัวลง 2.1% ส่งผลให้ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.5% แตะที่ 5.903 แสนล้านเยน หรือประมาณ 5.24 พันล้านดอลลาร์ โดยนักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า ตัวเลขดังกล่าวอาจทำให้รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มใช้นโยบายกีดกันการค้า

-- ผลสำรวจของเรียลมิเตอร์โพลระบุว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดีมูน แจ อิน แห่งเกาหลีใต้ ตกลงเหลือเพียง 61.7% ท่ามกลางความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้น หลังจากรัฐบาลอนุมัติการปรับขึ้นต่างแรงขั้นต่ำ ซึ่งเป็นเหตุให้บรรดาผู้ประกอบวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับภาระต้นทุนค่าแรงที่สูงขึ้น

-- สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า บริษัทผู้จัดจำหน่ายน้ำมันรายใหญ่ของญี่ปุ่นกำลังพิจารณาระงับการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ตามคำเรียกร้องของสหรัฐ

-- หัวหน้าคณะเจรจาจาก 11 ประเทศสมาชิกข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) เห็นพ้องให้เริ่มกระบวนการเจรจาเพื่อเปิดรับประเทศสมาชิกใหม่ในปี 2562

-- ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) คงคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP ของมาเลเซียในปี 2561 ว่า จะขยายตัวที่ 5.3% และ 5% ในปี 2562


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ