World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 6 สิงหาคม 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 6, 2018 17:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้กล่าววิพากษ์วิจารณ์สื่อสหรัฐรอบใหม่เมื่อวานนี้ โดยอ้างว่าเป็นต้นเหตุของสงคราม

ปธน.สหรัฐ ได้ระบุในทวิตเตอร์ของตนเองว่า สื่อสหรัฐเป็น "ศัตรูของประชาชน" โดยให้เหตุผลว่า "สื่อพวกนี้จงใจสร้างความแตกแยกและความไม่เชื่อใจ และอาจก่อให้เกิดสงครามด้วย"

--นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐกล่าววานนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร่ แห่งเวเนซูเอลา

นายโบลตันให้สัมภาษณ์กับรายการ "ฟ็อกซ์ นิวส์ ซันเดย์" ว่า "ผมยืนยันได้ว่ารัฐบาลสหรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นกับเหตุการณ์ดังกล่าว"

--เจ้าหน้าที่เวเนซูเอลาเปิดเผยว่าได้จับกุมตัวผู้ต้องสงสัย 6 ราย จากเหตุการณ์ใช้โดรนติดระเบิดโจมตีประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร่ แห่งเวเนซูเอลา ขณะกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันครบรอบ 81 ปี ของกองกำลังแห่งชาติเวเนซูเอลาที่กรุงคาราคัส

การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากความไม่พอใจในวิกฤติการขาดแคลนอาหารและเงินเฟ้อที่คาดว่าจะสูงถึง 1,000,000% ในปีนี้ พร้อมกับวิกฤติผู้อพยพที่เลวร้ายที่สุดในภูมิภาค ซึ่งนายมาดูโรกล่าวโทษว่าปัญหาของเวเนซูเอลาเป็นแผนการณ์ที่นำโดยสหรัฐ และโทษว่าการโจมตีครั้งนี้ถือเป็นความพยายามในการลอบสังหารตนเอง และเป็นฝีมือของกลุ่มขวาจัดในเวเนซูเอลา, โคลอมเบีย และกลุ่มสมรู้ร่วมคิดในสหรัฐ

--ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้กล่าวปกป้องการใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าที่ก่อให้เกิดความตึงเครียดกับจีนและสหภาพยุโรป โดยปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สนับสนุนในเมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ ระบุว่า การใช้กลยุทธ์ที่แข็งกร้าวด้านการค้าถือเป็นแนวทางของตน

ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า "เราสร้างจีนขึ้นมาใหม่และถึงเวลาแล้วที่ในตอนนี้เราจะสร้างประเทศของเราขึ้นใหม่เช่นเดียวกัน" พร้อมย้ำว่า หุ้นของจีนกำลังดิ่งลงอย่างหนัก ส่งผลทำให้อำนาจการจรจาต่อรองของจีนอ่อนแอลงในช่วงที่สงครามการค้าทวีความรุนแรงขึ้น

--นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐเปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐเตรียมชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการนำมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านกลับมาบังคับใช้ในวันนี้ ตามคำสั่งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า การชี้แจงรายละเอียดครั้งนี้เป็นความเคลื่อนไหวที่สำคัญ เพื่อที่จะต่อต้านความเคลื่อนไหวที่ไม่พึงประสงค์ของอิหร่าน

--หนังสือพิมพ์พีเพิล เดลี ซึ่งเป็นสื่อกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวโจมตีนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัดล์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ อย่างตรงไปตรงมา โดยกล่าวหาว่า ทรัมป์กำลัง "เล่นละครตบตาแนวต่อสู้ข้างถนน และยังจัดฉากมาอย่างดี"

สื่อจีนระบุด้วยว่า ทรัมป์ต้องการให้ประเทศอื่นร่วมแสดงละครไปกับตนเอง

--สมาคมผู้นำเข้ารถยนต์และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ของเกาหลีใต้ (KAIDA) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์นำเข้าเติบโตในอัตราเลข 2 หลักเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการรถหรูสัญชาติเยอรมนีที่เพิ่มสูงขึ้น

รายงานระบุว่า ยอดรถยนต์นำเข้าที่จดทะเบียนใหม่ในเดือนก.ค. มีจำนวนทั้งสิ้น 20,518 คัน เพิ่มขึ้น 16.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

--ธนาคารกลางจีนได้จัดเก็บเงินกันสำรองในสัดส่วน 20% กับสถาบันการเงินที่ทำการซื้อขายเงินตราต่างประเทศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ได้มีการยกเลิกการจัดเก็บสัดส่วนการกันสำรองทางการเงินไปเมื่อเดือนก.ย. 2560

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แถลงการณ์ของธนาคารกลางจีนระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะป้องกันความเสี่ยงทางด้านการเงิน และส่งเสริมการดำเนินการที่รอบคอบของสถาบันการเงิน

--สื่อทางการของจีนได้เผยแพร่บทบรรณาธิการเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า จีนได้เตรียมความพร้อมรับมือกับสงครามการค้าที่ยืดเยื้อกับสหรัฐ และไม่ได้หวั่นเกรงถึงเรื่องการเสียสละซึ่งผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจในระยะสั้น

โกลบอล ไทม์ส ซึ่งเป็นสื่อของทางการจีน ยังระบุในบทบรรณาธิการด้วยว่า เมื่อพิจารณาจากความต้องการที่ไม่สมเหตุสมผลของสหรัฐแล้ว สงครามการค้าจึงเป็นการกระทำที่มีเป้าหมายที่จะบีบอธิปไตยด้านเศรษฐกิจของจีน รวมทั้งความพยายามที่จะกดดันจีนให้อยู่ภายใต้ระบบศักดินาของสหรัฐ

--ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า การที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายของเขาได้เข้าพบนักกฎหมายและเจ้าหน้าที่ชาวรัสเซียนั้น มีจุดประสงค์เพื่อการหาข้อมูลเกี่ยวกับนางฮิลลารี คลินตัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับวงการการเมือง

ปธน.ทรัมป์ได้ออกมาปฏิเสธข่าวจากวอชิงตันโพสต์ และ CNN ผ่านทางทวิตเตอร์ว่า เขาไม่ได้มีความวิตกใดๆเกี่ยวกับบุตรชาย โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่า บุตรชายอาจเผชิญกับปัญหาด้านกฎหมายอันเนื่องมาจากการเข้าพบเจ้าหน้าที่ชาวรัสเซียที่ตึกทรัมป์ ทาวเวอร์

--ซาอุดิอาระเบียปรับลดการผลิตน้ำมันดิบลงมาอยู่ที่ประมาณ 10.290 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.ค. หรือลดลง 200,000 บาร์เรล/วันจากระดับของเดือนมิ.ย.

ขณะที่ปริมาณผลผลิตน้ำมันที่ถูกป้อนให้กับตลาดในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 10.380 ล้านบาร์เรล/วัน

--หนังสือพิมพ์ยูไนเต็ด เดลี นิวส์ ของไต้หวัน รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในกระทรวงคมนาคมว่า ทางการไต้หวันกำลังพิจารณาเรื่องการออกมาตรการตอบโต้สายการบินต่างชาติที่ยอมเปลี่ยนชื่อเรียก "ไต้หวัน" ตามข้อเรียกร้องรัฐบาลจีน

รายงานข่าวระบุว่า มาตรการตอบโต้ที่ว่านี้อาจอยู่ในรูปแบบของการห้ามไม่ให้สายการบินเหล่านี้ใช้สะพานเทียบเครื่องบิน หรือเปลี่ยนเลนสำหรับการเทคออฟและจอดเครื่องบิน

--กระทรวงวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และสตาร์ทอัพของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ธุรกิจสตาร์ทอัพของเกาหลีใต้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดตัวธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก

รายงานเปิดเผยว่า จำนวนบริษัทจดทะเบียนใหม่ในฐานะนิติบุคคลอยู่ที่ 52,790 แห่งในช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้น 6.8% จากปีก่อนหน้า

--นายมัวรีย์ ออบสต์เฟลด์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า ความไม่แน่นอนของเยอรมนีในการลดการเกินดุลการค้าจะส่งผลให้เกิดความตึงเครียดทางการค้า และเพิ่มความเสี่ยงซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงทางการเงินทั่วโลก

ออบสต์เฟลด์แสดงความคิดเห็นลงในหนังสือพิมพ์ ดี เวล์ต ของเยอรมนีว่า "เราจะเห็นได้ว่ามาตรการจัดการกับยอดเกินดุลการค้า (ในบัญชีปัจจุบัน) ของประเทศต่างๆ อย่างเยอรมนียังคงไม่มีความแน่นอน ขณะที่ทางออกที่ดีที่สุดก็คือ การทำให้ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเกินดุลลดลงเหลือน้อยที่สุด"

--สำนักงานสถิติแห่งชาติอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของอินโดนีเซีย (GDP)ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2561 เติบโตขึ้น 5.27% เมื่อเทียบรายปี

ตัวเลขดังกล่าวเป็นสถิติที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2556 และสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่า จะอยู่ที่ 5.16%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ