ประธานสมาคมบล็อกเชนอินโดนีเซียมั่นใจอาเซียนมีศักยภาพก้าวทันมหาอำนาจดิจิทัล

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 10, 2018 12:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสตีเวน ซูฮาดี ประธานสมาคมบล็อกเชนแห่งอินโดนีเซียเผยบล็อกเชน จะเข้ามาเพิ่มโอกาสและพัฒนาภูมิภาคอาเซียนได้อย่างยอดเยี่ยม โดยสังคมอาเซียนเป็นสังคมที่เหมาะสมสำหรับการเติบโตของเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกอย่างบล็อกเชน เพราะภูมิภาคอาเซียนมีขีดความสามารถที่จะก้าวทัน และทัดเทียมกับประเทศยักษ์ใหญ่ด้านดิจิทัลที่กำลังรุดหน้าอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็น จีน สหรัฐอเมริกา หรือยุโรป เนื่องจากสังคมอาเซียนพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันอยู่ตลอดเวลา

สำหรับอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีลักษณะเป็นหมู่เกาะน้อยใหญ่ และยังมีภาษาถิ่นเฉพาะของตนนั้น การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้จะช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพของการทำธุรกรรม การค้า หรือพาณิชย์ ด้วยการลดต้นทุนด้านเวลา และพลังงานอย่างมหาศาล ส่งผลให้การดำเนินการต่างๆเป็นไปอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ บล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัลกำลังได้รับความนิยมอย่างก้าวกระโดดภายในอินโดนีเซีย และยังดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาทดลองทำธุรกิจ เนื่องจากอินโดนีเซียเป็นตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพ โดยมีประชากรมากกว่า 260 ล้านคน และมากที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ของโลก อายุเฉลี่ยอยู่ในช่วงวัยหนุ่มสาว ดังนั้น นักลงทุนจึงต่างหลั่งไหลเข้ามาทำธุรกิจสตาร์ทอัพ อีคอมเมิร์ซ รวมถึงธุรกิจบล็อกเชน และการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล

สำหรับภาครัฐบาลนั้น สตีเวน กล่าวเสริมว่า หน่วยงานจากภาครัฐของอินโดนีเซียมีจุดยืนที่เป็นบวก พร้อมเปิดรับเทคโนโลยีบล็อกเชนอย่างมาก เพราะตระหนักดีถึงศักยภาพและพลังของเทคโนโลยีเหล่านี้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบในสังคมอินโดนีเซียเท่านั้น แต่ยังส่งผลกับประเทศต่างๆในภูมิภาคอาเซียนและสังคมโลกเช่นกัน รัฐบาลจึงเล็งเห็นความสำคัญในการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล ตลอดจนควบคุมแนวทาง และออกกฎระเบียบเพื่อเข้ามากำกับดูแลทรัพย์สินเหล่านี้ด้วย

สตีเวน คาดการณ์เกี่ยวกับสังคมเศรษฐกิจดิจิทัล ในมุมมองของประธานสมาคมบล็อกเชนว่า เราอยู่ในจุดที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการพึ่งพาธุรกิจบล็อกเชนหรือเทคโนโลยีพลิกโฉมอื่นได้ รัฐบาลจำเป็นต้องเข้ามามีส่วนร่วมและรับมือ ในปัจจุบัน มีเงินตราที่หมุนเวียนอยู่ในรูปแบบดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น ผ่านบริการธุรกรรมออนไลน์ เช่น Wechat Pay หรือ Apple Pay ดังนั้น ยิ่งมีการชำระเงินบนแพลตฟอร์มดิจิทัลมากขึ้นเท่าไร ผู้คนจะยิ่งคุ้นชินกับเงินดิจิทัลมากขึ้นเท่านั้น และจะเอื้อไปสู่การใช้บล็อกเชนด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือละเลย และจำเป็นต้องเข้ามาออกกฎระเบียบเพื่อควบคุมและกำกับดูแล

ทั้งนี้ นายสตีเวนได้เปิดเผยมุมมองดังกล่าวในการประชุม ADES 2018 - ASEAN Digital Economy Summit "ธุรกิจบล็อกเชนขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล" ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ