จ้าว เฉินซิน โฆษกคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) เปิดเผยในวันนี้ว่า ทางคณะกรรมการได้อนุมัติโครงการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรไปแล้วทั้งสิ้น 17 โครงการ วงเงินรวมกันประมาณ 7.77 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 1.13 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
โครงการเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นโครงการเกี่ยวกับเทคโนโลยีขั้นสูง ชลประทาน พลังงาน และการคมนาคม
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีน เริ่มชะลอตัวลงหลังจีนได้หันไปอาศัยการบริโภคและการสร้างนวัตกรรมเป็นหลัก ขณะที่มุ่งเป้าไปที่การยกระดับคุณภาพในการพัฒนา
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 5.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย.ที่มีการขยายตัว 6%
การลงทุนภาคเอกชนซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 60% ของการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรทั้งหมด ปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงขึ้น ขณะเดียวกัน การลงทุนในการผลิตภาคไฮเทคทะยานขึ้น 12.2% เทียบรายปี ซึ่งแซงอัตราการเติบโตของการลงทุนทั้งหมด
ทั้งนี้ การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรหมายถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน อสังหาริมทรัพย์ เครื่องจักร และสินทรัพย์ที่จับต้องได้ประเภทอื่นๆ