ที่ประชุมผู้บริหารสภาแห่งรัฐโดยมีนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนเป็นประธาน ได้ตัดสินใจให้รัฐบาลเร่งปฏิรูปและนำเอามาตรการใหม่ๆมาใช้ เพื่อขจัดอุปสรรค์ด้านการลงทุนและทำธุรกิจของภาคเอกชน ตลอดจนส่งเสริมแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเป็นการอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนและสนับสนุนการพัฒนาให้กับภาคเอกชน
นายหลี่เน้นว่า มาตรการเพิ่มเติมควรถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในตลาดและส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชน ในขณะเดียวกันก็ต้องมีการกำหนดโครงการต่างๆที่น่าสนใจออกมาเพื่อเป็นเป้าหมายในการดึงดูดการลงทุน
นายหลี่กล่าวว่า "เศรษฐกิจของเรากำลังส่งสัญญาณถึงความแข็งแกร่ง อีกทั้งยังมีแรงขับเคลื่อนที่ดี ซึ่งจะนำไปสู่การเติบโตต่อไป ดังนั้นในขณะที่เรากำลังเผชิญอยู่กับความท้าทายใหม่ๆ เราจึงควรเร่งรัดการปฏิรูป, ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เกิดขึ้น, วางแผนเอาไว้ล่วงหน้า และปรับเปลี่ยนนโยบายตามความจำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจจะดำเนินต่อไปในทิศทางที่เหมาะสม"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลจีนได้ใช้ความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งในการส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชนตลอดหลายปีมานี้ โดยในช่วง 7 เดือนแรกปีนี้ มูลค่าการลงทุนภาคเอกชนของจีนได้พุ่งขึ้นแตะระดับ 22.26 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 3.32 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 8.8๔ จากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว และเนื่องด้วยมูลค่าการลงทุนภาคเอกชนของจีนคิดเป็นสุดส่วนถึง 62.6% ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมดในประเทศ จึงส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนกลายมาเป็นเสาหลักของการเติบโตในภาคการลงทุนของจีน