ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า การเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ จะสามารถคลี่คลายข้อพิพาททางการค้าได้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการทำข้อตกลงซื้อขายกิจการของบริษัทจดทะเบียน อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กถูกกดดันในช่วงท้ายของการซื้อขาย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เกี่ยวกับนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์วิพากษ์วิจารณ์นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กรณีที่เฟดมีนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่า เขาคิดว่านายพาวเวลจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน และจะไม่ดำเนินการอย่างเข้มงวดจนเกินไป ขณะที่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 5 ครั้งนับตั้งแต่ที่นายทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนม.ค.ปีที่แล้ว เทียบกับที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในสมัยของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา นอกจากนี้ เฟดยังส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้ และอีก 3 ครั้งในปีหน้าด้วย
-- นายมัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย รอดพ้นจากการท้าทายตำแหน่งผู้นำประเทศจากสมาชิกอาวุโสร่วมรัฐบาล หลังจากที่สามารถคว้าชัยชนะในการโหวตเลือกตั้งหัวหน้าลิเบอรัล เหนือนายปีเตอร์ ดัตตัน รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยออสเตรเลีย ด้วยคะแนนเสียง 48 ต่อ 35
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเทิร์นบูลเป็นผู้แสดงเจตจำนงให้จัดการเลือกตั้งผู้นำพรรครัฐบาลออสเตรเลียอย่างปัจจุบันทันด่วนขึ้นด้วยตัวเอง เพื่อยุติการคาดเดาที่ว่าตำแหน่งผู้นำประเทศของตนตกอยู่ภายใต้สถานการณ์สุ่มเสี่ยงถูกคุกคาม
ที่ผ่านมา นายเทิร์นบูลต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักจากผลการเลือกตั้งที่ล้มเหลว และสูญเสียที่นั่งสำคัญในรัฐควีนส์แลนด์ ตลอดจนเสียงประท้วงต่อต้านนโยบายด้านพลังงานจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแนวคิดอนุรักษ์นิยมในพรรคของตัวเอง
-- นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน พบหารือกับนายมหาธีร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเดินทางเยือนจีน โดยระบุว่า จีนจะดำเนินการร่วมกับมาเลเซียในการยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคี นอกจากนี้จีนจะใช้นโยบายที่เป็นมิตรต่อมาเลเซีย และจะดำเนินการกับมาเลเซียเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยอยู่บนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน ความเท่าเทียมกัน และการมีผลประโยชน์ร่วมกัน รวมทั้งจะเพิ่มปริมาณการค้าและการลงทุน
ด้านนายมหาธีร์กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เดินทางเยือนประเทศนอกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) นับตั้งแต่ที่เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งที่ 2 แต่เป็นการเดินทางเยือนจีนเป็นครั้งที่ 8 ในฐานะนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลมาเลเซียจะยังคงดำเนินนโยบายที่เป็นมิตรต่อจีน และจะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย
นายมหาธีร์คาดหวังว่ามาเลเซียจะสามารถเพิ่มการส่งออกสินค้าไปยังจีน และจีนจะลงทุนมากขึ้นในมาเลเซีย ขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายเพิ่มความร่วมมือในด้านการท่องเที่ยว นวัตกรรม การวิจัยและการพัฒนา
-- นายบาห์ราม กาเซมี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่า โครงการขีปนาวุธของอิหร่านเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเจรจาต่อรองได้และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่าน ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวว่า เยอรมนียินดีที่จะรักษาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน แม้ว่าสหรัฐประกาศถอนตัว แต่เยอรมนีก็ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับโครงการขีปนาวุธของอิหร่าน
โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่านระบุว่า "นางแมร์เคิลสามารถแสดงความเห็นอย่างไรก็ได้ แต่ต้องรู้ว่าโครงการขีปนาวุธ และข้อตกลงนิวเคลียร์เป็นคนละประเด็นกัน" และ "เราได้ประกาศจุดยืนเกี่ยวกับโครงการขีปนาวุธแล้วว่าเป็นสิ่งที่เจรจาต่อรองไม่ได้"
-- นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ยังคงหวังว่ารัสเซียจะสามารถฟื้นความสัมพันธ์กับสหรัฐ และรัสเซียมองว่าการที่สหรัฐประกาศคว่ำบาตรต่อรัสเซียเมื่อไม่นานมานี้ ถือเป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นมิตร และผิดกฎหมาย
ขณะเดียวกันยังระบุว่า หากสหรัฐประกาศคว่ำบาตรบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติ Nord Stream 2 ซึ่งเชื่อมระหว่างรัสเซียและเยอรมนี ก็จะถือเป็นการดำเนินการที่ขัดต่อกฎข้อบังคับในการค้าระหว่างประเทศ
-- รัฐบาลเวเนซุเอลาประกาศตัดตัวเลขศูนย์ 5 ตัวออกจากราคาสินค้าตามมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประธานาธิบดีนิโคลาส มาดูโร ที่คาดว่าจะช่วยสกัดเงินเฟ้อที่กำลังพุ่งขึ้นในประเทศ หลังจากที่ได้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 3,000% และเพิ่มอัตราภาษีเพื่อให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนที่จะกำหนดราคาสินค้า, เงินเดือน และอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศ โดยอิงกับ "petro" ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลของรัฐบาลเวเนซุเอลา แต่นักวิเคราะห์ระบุว่า มาตรการของรัฐบาลยิ่งทำให้วิกฤตเศรษฐกิจมีความรุนแรงขึ้น จนส่งผลให้เวเนซุเอลาประสบภาวะขาดแคลนสินค้า และทำให้ประชาชนหนีปัญหาเศรษฐกิจด้วยการเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
ด้านปธน.มาดูโรกล่าวหาว่า รัฐบาลของเขาเป็นเหยื่อของการทำสงครามเศรษฐกิจที่นำโดยคู่แข่งทางการเมืองของเขา โดยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ ซึ่งได้ออกมาตรการคว่ำบาตรเวเนซุเอลาเพื่อหวังโค่นล้มเขาจากตำแหน่ง
ทั้งนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ในเดือนที่แล้วว่า เงินเฟ้อของเวเนซุเอลาจะพุ่งขึ้น 1,000,000% ในช่วงสิ้นปีนี้
-- บริษัทโททาล เอสเอ ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส ประกาศถอนตัวอย่างเป็นทางการออกจากอิหร่านแล้ว หลังยกเลิกข้อตกลงวงเงิน 5 พันล้านดอลลาร์ ระยะเวลา 20 ปี ในการพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่ง South Pars ของอิหร่าน
ก่อนหน้านี้ โททาลประกาศในเดือนพ.ค.ว่า บริษัทได้ตัดสินใจยกเลิกโครงการพัฒนาแหล่งพลังงานในอิหร่านตามมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ เนื่องจากบริษัทไม่สามารถแบกรับความเสี่ยงจากการถูกระงับการทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินของสหรัฐได้
ทั้งนี้ South Pars นับเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างอิหร่านและกาตาร์ โดยอิหร่านสามารถผลิตก๊าซธรรมชาติ 750 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ขณะที่กาตาร์ผลิตได้ 590 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน
-- ธนาคารกลางมาเลเซียแถลงว่า ธนาคารกลางจีนและมาเลเซียได้ขยายเวลาข้อตกลงสว็อปสกุลเงินวงเงิน 1.80 แสนล้านหยวน/1.10 แสนล้านริงกิตออกไปอีก 3 ปี นอกจากนี้ยังระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการทำธุรกรรมการค้า และการลงทุนโดยตรงระหว่างจีนและมาเลเซีย
ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวมีการจัดทำขึ้นครั้งแรกในปี 2552 โดยมีการต่ออายุในปี 2555 และ 2558
-- แหล่งข่าวระบุว่า จีนยื่นข้อเสนอต่อสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เพื่อให้มีการซ้อมรบระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายอย่างเป็นประจำในทะเลจีนใต้ นอกจากนี้ จีนยังได้เสนอให้ทั้ง 2 ฝ่ายให้คำมั่นที่จะไม่จัดการซ้อมรบในทะเลจีนใต้กับประเทศอื่นที่อยู่นอกภูมิภาค หากไม่มีการแจ้ง หรือทำข้อตกลงล่วงหน้า ซึ่งคาดว่าข้อเสนอดังกล่าวของจีนมีขึ้นจะสกัดอิทธิพลของสหรัฐในภูมิภาค
ทั้งนี้ จีนยื่นข้อเสนอดังกล่าว หลังจากที่มีการจัดการประชุมระหว่างจีนและสมาชิกอาเซียนที่สิงคโปร์ก่อนหน้านี้เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการรักษาความปลอดภัยทางทะเลในภูมิภาค
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. และธนาคารกลางออสเตรเลียจะเปิดเผยรายงานการประชุม
ส่วนในวันพรุ่งนี้ สหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 31 ก.ค. - 1 ส.ค. (เช้าวันที่ 23 ส.ค.)