แจ็ค ดอร์ซีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของทวิตเตอร์ และเชอริล แซนด์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของเฟซบุ๊ก ได้เข้าให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐเมื่อคืนนี้ โดยผู้บริหารโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ทั้งสองได้ให้คำมั่นในการควบคุมคอนเทนต์และปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ผู้บริหารทั้งสองยังได้ชี้แจงเกี่ยวกับมาตรการในการป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศด้วย หลังทีมสอบสวนของนายโรเบิร์ต มุลเลอร์ ผู้เป็นที่ปรึกษาพิเศษ ได้กล่าวหาว่ารัสเซียได้ใช้เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ในการเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ
-- ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงหลังจากบริหารของบริษัทเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐ เกี่ยวกับการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว
ทั้งนี้ หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 2.3% หุ้นทวิตเตอร์ ดิ่งลง 6.1% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ปรับตัวลง 0.9% หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 2.9% หุ้นอเมซอนดอทคอม ร่วงลง 2.2% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ดิ่งลง 6.2% และหุ้นสแนป ปรับตัวลง 4.5%
-- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สหราชอาณาจักร และเยอรมนีเตรียมที่จะยกเลิกเงื่อนไขที่เคยเป็นอุปสรรคต่อการเจรจาเกี่ยวกับการแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลง
แหล่งข่าวระบุว่า เยอรมนีพร้อมที่จะยอมรับข้อตกลงที่ไม่มีเงื่อนไขมากเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าในอนาคตของสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถทำข้อตกลง Brexit
รายงานยังระบุว่า สหราชอาณาจักรพร้อมที่จะยอมรับแถลงการณ์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอนาคต โดยยอมเลื่อนการตัดสินใจในบางประเด็นจนกว่าจะผ่านพ้นวันที่มีการแยกตัวอย่างเป็นทางการ
-- ทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรง 6.7 แมกนิจูดที่เกาะฮอกไกโด ทางตอนเหนือของญี่ปุ่นเมื่อคืนนี้ ส่งผลให้บ้านเรือนกว่า 3 ล้านหลังคาเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ และยังทำให้การบริการรถไฟหัวกระสุนระหว่างอาโอโมริและฮาโกดาเตะต้องถูกระงับด้วย
นอกจากนี้ อิทธิพลของแผ่นดินไหวยังทำให้มีการยกเลิกเที่ยวบินบางส่วน เนื่องจากเกิดไฟฟ้าดับที่สนามบินนิว ชิโตเสะ
รายงานล่าสุดระบุว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และสูญหาย 32 ราย หลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในครั้งนี้
-- ธนาคารกลางแคนาดาประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50% ในวันนี้ ขณะจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและแคนาดา
ทั้งนี้ แถลงการณ์ระบุว่า ธนาคารกลางกำลังจับตาการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ระหว่างสหรัฐและแคนาดาในสัปดาห์นี้ รวมทั้งผลกระทบจากการเจรจา และทิศทางของเงินเฟ้อ
-- บิตคอยน์ดิ่งลงกว่า 5% เมื่อวานนี้ หลังสื่อรายงานว่า โกลด์แมน แซคส์ได้ยกเลิกแผนเปิดตัวซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากมองว่ากฎระเบียบที่ควบคุมการซื้อขายสกุลเงินดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนในขณะนี้
ณ เวลา 21.50 น. เมื่อคืนนี้ บิตคอยน์อยู่ที่ระดับ 6,988.01 ดอลลาร์
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐพุ่งขึ้น 9.5% สู่ระดับ 5.01 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน และเป็นการขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 หลังจากอยู่ที่ระดับ 4.57 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ การพุ่งขึ้น 9.5% ของตัวเลขขาดดุลในเดือนก.ค. ยังถือเป็นการทะยานขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบรายเดือนนับตั้งแต่ปี 2558 โดยมีสาเหตุจากการลดลงของการส่งออกถั่วเหลืองและเครื่องบิน ขณะที่การนำเข้าพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
-- นายโมฮัมเหม็ด มาอิต รมว.คลังอียิปต์ กล่าวว่า เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจอียิปต์จะสามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์ที่ตลาดเกิดใหม่กำลังเผชิญในขณะนี้ ตราบใดที่สถานการณ์ไม่เลวร้ายไปกว่านี้
"ขณะนี้เราสามารถรับมือปัจจัยลบต่างๆได้ แต่ผมก็ขอยอมรับว่าอียิปต์มีความสามารถที่จำกัด ดังนั้นผมจึงหวังว่าเหตุการณ์ต่างๆจะกลับคืนสู่ภาวะปกติ และมีเสถียรภาพ" นายมาอิตกล่าว
-- นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา กล่าวว่า แคนาดาจะไม่ยอมอ่อนข้อต่อข้อเรียกร้องของสหรัฐในการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่ในสัปดาห์นี้
"มีหลายเรื่องที่เราต้องการเห็นในการเจรจาข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่" นายทรูโดกล่าว
ทั้งนี้ ตัวแทนเจรจาการค้าของทั้งสองฝ่ายจะเริ่มการเจรจาครั้งใหม่ในวันนี้ที่กรุงวอชิงตัน หลังจากที่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นกำหนดเส้นตายที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุไว้ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งกันในหลายประเด็น
-- สำนักงานสถิติฟิลิปปินส์ (PSA) รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (headline inflation) ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนส.ค.ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 6.4% ทำสถิติสูงสุดระดับใหม่ในรอบ 9 ปี
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อของฟิลิปปินส์ในเดือนก.ค. อยู่ที่ 5.7% ขณะที่เดือนส.ค.ปีที่แล้วอยู่ที่ 2.6%
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ โดยเยอรมนีจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ค. ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค.จาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภาพ-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยไตรมาส 2/2561, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนส.ค.จากมาร์กิต, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ค. และดัชนีภาคบริการเดือนส.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นจะเปิดเผยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนก.ค. เยอรมนีจะเปิดเผยดุลการค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. ขณะที่อียูจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) และสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.