World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 7 กันยายน 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 7, 2018 08:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางการซื้อขายที่ซบเซา เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มพลังงานร่วงลงอย่างต่อเนื่อง

ดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลงตามทิศทางหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นบริษัทเทคโนโลยีในกลุ่ม FAANG (เฟซบุ๊ก แอปเปิล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล) นักวิเคราะห์เปิดเผยว่า หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า สงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นในขณะนี้ อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการชิปคอมพิวเตอร์ รวมทั้งความวิตกกังวลที่ว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเพิ่มมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวดมากขึ้นต่อบริษัทโซเชียลมีเดีย

ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงติดต่อกันสองวันทำการเมื่อคืนนี้

-- ตลาดการเงินทั่วโลกต่างจับตาผลการทำประชาพิจารณ์จากภาคส่วนต่างๆของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีและค้าปลีก โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะใช้ผลการทำประชาพิจารณ์ดังกล่าวเป็นปัจจัยในการตัดสินใจว่า จะออกมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก 2 แสนล้านดอลลาร์หรือไม่

ทั้งนี้ ภาคธุรกิจของสหรัฐจะมีเวลาจนถึงวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ เพื่อแสดงความเห็นว่า คณะทำงานของปธน.ทรัมป์ควรเดินหน้ามาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทุกชนิด ตั้งแต่รถจักรยานไปจนถึงกล้องถ่ายรูปดิจิทัลหรือไม่ เพื่อปูทางให้ปธน.ทรัมป์ประกาศการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าวในวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ

-- หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพยายามแก้ปัญหาในกรณีที่สหรัฐขาดดุลการค้ากับญี่ปุ่น ซึ่งส่งผลให้เกิดกระแสความวิตกกังวลว่า สหรัฐจะเดินหน้าทำสงครามการค้ากับบรรดาประเทศคู่ค้าต่อไป

วอลล์สตรีท เจอร์นัล ระบุว่า แม้ปธน.ทรัมป์กล่าวว่าสหรัฐมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำญี่ปุ่น แต่ก็ได้ส่งสัญญาณว่า ความสัมพันธ์อันดีดังกล่าวอาจสิ้นสุดลง หลังจากที่สหรัฐขาดดุลการค้ากับญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ วอลล์สตรีท เจอร์นัล ยังระบุด้วยว่า ปธน.ทรัมป์กำลังพยายามอย่างมากที่จะลดยอดขาดดุลการค้ากับบรรดาประเทศคู่ค้า

-- บิตคอยน์ และสกุลเงินดิจิทัลยังคงดิ่งลงต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ หลังสื่อรายงานว่า โกลด์แมน แซคส์ได้ยกเลิกแผนเปิดตัวซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากมองว่ากฎระเบียบที่ควบคุมการซื้อขายสกุลเงินดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนในขณะนี้

Business Insider รายงานว่า ในปีที่ผ่านมา โกลด์แมน แซคส์มีแผนที่จะเปิดทำการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์ อย่างไรก็ดี ผู้บริหารของโกลด์แมน แซคส์ได้ข้อสรุปว่ายังคงต้องมีการดำเนินการอีกหลายขั้นตอน ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่นอกเหนือการควบคุมของธนาคาร ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์เข้าทำการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล

-- สกุลเงินรูปีของอินเดียร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอินเดียพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี

คาดกันว่าธนาคารกลางอินเดียได้เข้าแทรกแซงตลาดเมื่อวานนี้ เนื่องจากธนาคารของรัฐบางแห่งได้เข้าขายดอลลาร์ในตลาดคิดเป็นวงเงิน 1.5-2.0 พันล้านดอลลาร์

-- บริษัทเฟซบุ๊ก อิงค์ ประกาศเมื่อคืนนี้ว่า ทางบริษัทจะทุ่มเงิน 1,400 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือราว 32,800 ล้านบาท ในการสร้างศูนย์ข้อมูลในสิงคโปร์ ซึ่งนับเป็นแห่งแรกในเอเชีย และแห่งที่ 15 ในโลก

เฟซบุ๊กระบุถึงสาเหตุหลายประการในการเลือกสิงคโปร์เป็นที่ตั้งของศูนย์ข้อมูล ซึ่งได้แก่ การมีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง การมีพนักงานในท้องถิ่นที่มีความรู้ การที่รัฐบาลสิงคโปร์มีนโยบายในการทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งให้ความสะดวกต่อการขออนุญาตในการก่อสร้าง

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความเมื่อคืนนี้ แสดงความขอบคุณต่อนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งได้ประกาศเป้าหมายที่จะเสร็จสิ้นการปลดอาวุธนิวเคลียร์ภายในช่วงเวลา 4 ปีของการดำรงตำแหน่งสมัยแรกของปธน.ทรัมป์

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 163,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐใกล้เข้าสู่ภาวะการจ้างงานเต็มศักยภาพ

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 49 ปีในสัปดาห์ที่แล้ว โดยจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 203,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2512 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 214,000 ราย

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐพุ่งขึ้น 2.9% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบรายไตรมาส ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2558 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.0% หลังจากที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ในไตรมาส 1

ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ชะลอตัวสู่ระดับ 54.8 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน จากระดับ 56.0 ในเดือนก.ค.

ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 58.5 ในเดือนส.ค. โดยอยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 56.8 จากระดับ 55.7 ในเดือนก.ค.

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลง 0.8% ในเดือนก.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.6% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมิ.ย. การร่วงลงของคำสั่งซื้อภาคโรงงานได้รับผลกระทบจากคำสั่งซื้อเครื่องบินที่ลดลง

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่มีกำหนดรายงานในวันนี้ นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่ผลการสำรวจของนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 191,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 157,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานเดือนส.ค.จะลดลงสู่ระดับ 3.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 18 ปี จากระดับ 3.9% ในเดือนก.ค.

ยูโรโซนเตรียมรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) เวลา 16.00 น.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ