สื่อต่างประเทศรายงานว่า จีนเล็งปรับลดภาษีสินค้านำเข้าในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในช่วงเดือนต.ค.นี้
เมื่อวานนี้ นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกันหารือเกี่ยวกับปัญหาที่เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญอยู่ เพื่อให้มีการพัฒนาร่วมกันซึ่งจะนำไปสู่ความมั่งคั่ง
นายหลี่แสดงความเห็นดังกล่าวต่อนายเคล้าส์ ชวาบ ผู้ก่อตั้งเวิลด์ อิโคโนมิค ฟอรั่ม (WEF) ซึ่งกำลังจัดขึ้นที่เมืองเทียนจินของจีน
การวางแผนเพื่อที่จะปรับลดภาษีนำเข้าดังกล่าวถือเป็นการดำเนินการตามเป้าหมายของจีน เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศและส่งเสริมเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง
ก่อนหน้านี้ จีนได้ดำเนินการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าตั้งแต่เดือนก.ค. ขณะที่ความขัดแย้งทางการค้ารุนแรงขึ้น แม้ว่าจะมีการเจรจาแก้ไขข้อพิพาททางการค้าหลายรอบ
สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าต่างประเทศของจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.1% เทียบรายปี แตะ 19.43 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 2.85 ล้านล้านดอลลาร์) ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้
ยอดส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.4% เทียบรายปีในช่วง 8 เดือนแรก แตะ 10.34 ล้านล้านหยวน ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 13.7% แตะ 9.09 ล้านล้านหยวน เท่ากับว่าจีนเกินดุลการค้า 1.25 ล้านล้านหยวน ซึ่งเกินดุลการค้าลดลง 31.3%