สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่ได้พิจารณาว่าบริษัทสัญชาติสหรัฐบริษัทใดจะได้รับการยกเว้นจากการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ เหมือนที่เคยดำเนินการมาแล้วในการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนครั้งก่อนๆ
รายงานระบุว่า รัฐบาลสหรัฐให้เหตุผลที่ไม่ดำเนินการพิจารณายกเว้นภาษีนำเข้าให้กับบริษัทต่างๆว่า บริษัททั้งหลายมีเวลาถึง 3 เดือนในการย้ายห่วงโซ่อุปทานออกจากจีน ก่อนที่การเรียกเก็บภาษี 25% จะมีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค.ปีหน้า
ทั้งนี้ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ในอัตรา 10% ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้ และจากนั้นจะเพิ่มเป็น 25% ตั้งแต่ช่วงต้นปีหน้า
ขณะที่โฆษกสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐได้ออกมาเปิดเผยว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการประกาศถึงการดำเนินยกเว้นภาษีจากรัฐบาลแต่อย่างใด
การดำเนินการดังกล่าวของรัฐบาลสหรัฐทำให้บริษัทต่างๆเกิดความวิตกกังวลกันว่าอาจต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเพิ่มมากขึ้น ขณะที่สมาคมอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งรวมถึงสหพันธ์ค้าปลีกของสหรัฐก็ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลผ่อนผันการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากบริษัทของสหรัฐเอง
นายโจนาธาน กู๊ด รองประธานด้านห่วงโซ่อุปทานและนโยบายภาษีของสหพันธ์ค้าปลีกกล่าวว่า "บริษัทต่างๆไม่สามารถย้ายห่วงโซ่อุปทานได้ในเวลาสั้นๆ การดำเนินการดังกล่าวต้องใช้เวลาหลายเดือน หรืออาจจะหลายปีในการหาซัพพลายเออร์รายใหม่ที่สามารถจัดส่งวัตถุดิบให้พวกเขาได้ตามความต้องการ ภาษีเหล่านี้ถือเป็นการลงโทษที่ไม่เป็นธรรมต่อบริษัทของสหรัฐ และในที่สุดมันก็จะกลับมาทำร้ายผู้บริโภคชาวสหรัฐเอง"