ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 ที่ขยายตัวสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี ขณะที่นักลงทุนซึมซับผลการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งที่ประชุมมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
-- หุ้นเทสลา ปรับตัวลง 0.7% หลังจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ได้ยื่นฟ้องนายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเทสลา จากกรณีที่นายมัสก์ได้ทวีตข้อความก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการนำเทสลาออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด
ทั้งนี้ นายมัสก์ได้ทวีตข้อความในวันที่ 7 ส.ค.ว่า เขามีแผนที่จะนำบริษัทเทสลาออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด โดยเขามีแหล่งเงินทุนที่จะเข้าซื้อหุ้นที่ระดับราคา 420 ดอลลาร์ ซึ่งข่าวนี้ส่งผลให้ราคาหุ้นเทสลาพุ่งขึ้นแตะ 387.46 ดอลลาร์ในวันดังกล่าว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
-- ธนาคารกลางฟิลิปปินส์มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% เป็น 4.5% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 28 ก.ย.นี้ เพื่อควบคุมการคาดการณ์เรื่องเงินเฟ้อ และดูแลเป้าหมายเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบของนโยบาย โดยแถลงการณ์ของแบงก์ชาติฟิลิปปินส์ระบุว่า แบงก์ชาติฟิลิปปินส์ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนและเงินฝากด้วยเช่นกัน
-- ธนาคารกลางอินโดนีเซียได้มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็น 5.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 5 แล้วในปีนี้ โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสัญญาซื้อคืนพันธบัตรอายุ 7 วันนั้น สอดคล้องกับความพยายามในการปรับลดยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศ ในขณะเดียวกันก็รักษาระดับความน่าดึงดูดของตลาดการเงินไว้
-- จีนได้ผลักดันให้สหรัฐยุติการใช้ถ้อยคำและการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐ รวมทั้งผลประโยชน์พื้นฐานของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เกิง ฉวง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนได้ร้องขอในเรื่องดังกล่าวระหว่างการแถลงข่าวรายวัน ภายหลังจากที่มีคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่สหรัฐได้กล่าวหาจีนว่า พยายามที่จะเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ
-- องค์การการค้าโลก (WTO) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของการค้าโลกทั้งในปี 2561 และ 2562 เนื่องจากสถานการณ์การค้าที่ตึงเครียดมากยิ่งขึ้น รวมทั้งสภาพตลาดสินเชื่อที่ตึงตัวมากยิ่งขึ้นในตลาดที่มีความสำคัญ โดย WTO ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของการค้าโลกปี 2561 ลงเหลือ 3.9% ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ที่ได้จัดทำไว้เมื่อเดือนเม.ย.ที่ระดับ 4.4%
ขณะเดียวกัน WTO ยังได้ปรับลดแนวโน้มของปี 2562 ลงเหลือ 3.7% จากระดับคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 4%
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 ขยายตัวที่ระดับ 4.2% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณการก่อนหน้านี้ โดยการขยายตัวของ GDP ในไตรมาส 2 ที่ระดับ 4.2% ถือเป็นอัตราการเติบโตสูงที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี หลังจากขยายตัวเพียง 2.2% ในไตรมาสแรก
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนส.ค. จากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนฟลอเรนซ์ โดยจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 12,000 ราย สู่ระดับ 214,000 รายในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 22 ก.ย.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 4.5% ในเดือนส.ค. มากที่สุดในรอบ 6 เดือน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากคำสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ร่วงลง 1.8% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน นับเป็นสถิติที่อ่อนตัวลงติดต่อกัน 4 เดือน
สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี (Destatis) รายงานเมื่อคืนนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเยอรมนี ซึ่งคิดคำนวณตามมาตรฐานที่สอดคล้องกับประเทศอื่นๆในสหภาพยุโรป ปรับตัวขึ้น 2.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 4 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.0% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนส.ค.
สำนักงานสถิติแห่งชาติอิตาลี รายงานว่า ความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้บริโภคชาวอิตาลีปรับตัวดีขึ้นในเดือนก.ย. แต่ความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจกลับปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนส.ค. ขยายตัวสู่ระดับ 116 จุด จากระดับ 115.3 จุด ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจเดือนก.ย.ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 103.7 จุด จากระดับ 103.9 จุด ในเดือนส.ค.
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะมีการรายงานในวันนี้ ไฉซินเตรียมรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ย. เวลา 08.45 น. ตามเวลาไทย
ทางการเยอรมนีมีกำหนดรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค. เวลา 13.00 น. และอัตราว่างงานเดือนก.ย. เวลา 14.55 น.
ทางการฝรั่งเศสมีกำหนดรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย. เวลา 13.45 น.
ทางการอังกฤษมีกำหนดรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) เวลา 15.30 น.
ยูโรโซนมีกำหนดรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย. เวลา 16.00 น.
ส่วนสหรัฐมีกำหนดรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนส.ค. เวลา 19.30 น. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เวลา 21.00 น.