World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 5 ตุลาคม 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 5, 2018 08:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสุงสุดในรอบ 7 ปี หลังจากประธานธนาคารสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นบริษัทในกลุ่ม FAANG (เฟซบุ๊ก แอปเปิล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล)

-- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี เคลื่อนไหวที่ระดับ 3.178% ณ เวลา 21.20 น.ตามเวลาไทยเมื่อวานนี้ หลังจากแตะระดับ 3.232% ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2554 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.341% หลังจากแตะระดับ 3.375% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2557

การพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง เช่นหุ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้นหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป

-- บลูมเบิร์ก บิสซิเนส วีค รายงานเมื่อคืนนี้ว่า รัฐบาลจีนได้ลักลอบฝังไมโครชิปในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของบริษัทสหรัฐเกือบ 30 แห่ง รวมทั้งหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐหลายแห่ง ซึ่งจะทำให้รัฐบาลจีนสามารถลักลอบเข้าถึงเครือข่ายภายในองค์กรของภาคเอกชนและรัฐบาลของสหรัฐ

บลูมเบิร์กระบุว่า ชิปดังกล่าวจะทำการสอดแนม และโจรกรรมทรัพย์สินทางปัญญา และข้อมูลลับทางการค้าของบริษัทสหรัฐ โดยเจ้าหน้าที่จากกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) ซึ่งได้แฝงตัวอยู่ในบริษัทซูเปอร์ไมโคร ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเซิร์ฟเวอร์ของจีน เป็นผู้ที่ลักลอบฝังชิปดังกล่าวในกระบวนการผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในศูนย์ข้อมูล

-- บริษัทแอปเปิล อิงค์ และอเมซอน ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข่าวจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กซึ่งระบุว่า รัฐบาลจีนได้ลักลอบฝังไมโครชิปในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของบริษัท เพื่อล้วงข้อมูลลับทางการค้า

แอปเปิลระบุว่า ทางบริษัทขอปฏิเสธข่าวที่ปรากฏในสำนักข่าวบลูมเบิร์ก โดยบริษัทไม่เคยพบชิปดังกล่าว หรือพบการดัดแปลงฮาร์ดแวร์ หรือใส่สิ่งแปลกปลอมใดๆในเซิร์ฟเวอร์

ส่วนอเมซอนออกแถลงการณ์ว่า ทางบริษัทไม่พบหลักฐานใดๆที่สนับสนุนคำกล่าวอ้างที่ว่ามีการใส่ชิป หรือมีการดัดแปลงฮาร์ดแวร์แต่อย่างใด

-- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันจะพุ่งแตะ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีหน้า โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่สหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน และภาวะคอขวดในการส่งออกน้ำมันสหรัฐสู่ตลาดโลก

-- นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เรียกร้องให้ญี่ปุ่นดำเนินการปรับขึ้นภาษีบริโภคในปีหน้าอย่างระมัดระวัง โดยไม่กระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

-- นายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และเคยเป็นตัวเก็งที่จะเป็นประธานเฟดสืบต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน กล่าวว่า มาตรการปรับลดอัตราภาษี และการปรับลดกฎระเบียบด้านธุรกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐเป็นอย่างมากในปีนี้

-- เจพีมอร์แกนประกาศปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นจีนจากระดับ overweight สู่ระดับ neutral โดยคาดว่าการทำสงครามการค้ากับสหรัฐจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนในปีหน้า

-- นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า จีนกำลังแทรกแซงการเมืองและประชาธิปไตยในสหรัฐ เพื่อบ่อนทำลายประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนหน้า ขณะที่ประเทศทั้งสองเข้าสู่การทำสงครามการค้าที่รุนแรงมากขึ้น นอกจากนี้ นายเพนซ์ยังได้กล่าวโจมตีการแผ่อำนาจทางทหารของจีนในทะเลจีนใต้ และความพยายามของจีนในการเข้าครอบครองหมู่เกาะเซนกากุของญี่ปุ่น ซึ่งจีนและไต้หวันต่างก็อ้างกรรมสิทธิเหนือหมู่เกาะดังกล่าว

-- นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย รวมทั้งจับตาตัวเลขเฉลี่ยค่าจ้างรายชั่วโมง เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวจะเป็นตัวบ่งชี้เงินเฟ้อ และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ

ผลการสำรวจนักวิเคราะห์บ่งชี้ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย.

ส่วนตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนส.ค.ที่ผ่านมานั้น เพิ่มขึ้น 201,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 191,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.9% ในเดือนส.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 3.8%

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 49 ปีในสัปดาห์ที่แล้ว โดยจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 207,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2512 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะแตะระดับ 213,000 ราย

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐพุ่งขึ้น 2.3% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.1% หลังจากลดลง 0.5% ในเดือนก.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ