World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 1, 2018 08:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 241.12 จุดเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมถึงหุ้นเฟซบุ๊กที่ดีดตัวขึ้นขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัท

อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ แต่ภาพรวมตลอดเดือนต.ค.ยังคงซบเซา โดยตลอดเดือนต.ค.ที่ผ่านมานั้น ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 5.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรายเดือนที่หนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2559 ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 6.9% ซึ่งลดลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2554 และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 9.2% ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2551

-- ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. จากระดับ 218,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าการจ้างงานภาคเอกชนจะเพิ่มขึ้น 189,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.

-- ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ในวันศุกร์นี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. โดยจะต่ำกว่าระดับ 201,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับเฉลี่ยในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

ส่วนตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 134,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 185,000 ตำแหน่ง

-- นักลงทุนพากันเทขายรูปีและพันธบัตรรัฐบาลอินเดียเมื่อวานนี้ หลังมีกระแสข่าวว่า นายอูร์จิต ปาเทล ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดีย เตรียมลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีความขัดแย้งกับรัฐบาลอินเดียเกี่ยวกับการใช้นโยบายการเงิน

สื่อระบุว่า รัฐบาลอินเดียได้ใช้อำนาจภายใต้มาตรา 7 ของพรบ.ธนาคารกลางอินเดีย ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสามารถสั่งการผู้ว่าการธนาคารกลางในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประชาชน

รัฐบาลอินเดียได้ส่งหนังสือหลายฉบับไปยังนายปาเทลในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ เพื่อสั่งการตามอำนาจดังกล่าวในประเด็นเกี่ยวกับการเพิ่มสภาพคล่องแก่สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร, การเพิ่มทุนสำหรับธนาคารที่อ่อนแอ และการปล่อยกู้แก่บริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม

เทรดเดอร์รายหนึ่งกล่าวว่า เป็นเรื่องน่าวิตกที่เห็นว่ารัฐบาลพยายามเข้าก้าวก่ายการดำเนินงานของธนาคารกลาง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอินเดียออกแถลงการณ์ผ่านทางกระทรวงการคลังเมื่อวานนี้ โดยเน้นย้ำว่า ความเป็นอิสระของธนาคารกลางอินเดียถือเป็นเรื่องที่สำคัญ และรัฐบาลจะยังคงทำการปรึกษาหารือกับธนาคารกลางเพื่อให้มุมมองเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ และแนะนำทางออกที่เป็นไปได้

-- นายโดมินิค แรบ รัฐมนตรีฝ่ายกิจการการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ระบุว่า เขาคาดว่าอังกฤษจะสามารถทำข้อตกลง Brexit กับสหภาพยุโรป (EU) ได้ภายในวันที่ 21 พ.ย.

ทั้งนี้ นายแรบระบุกำหนดวันดังกล่าวในจดหมายที่ส่งไปยังนางฮิลารี เบนน์ ประธานคณะกรรมาธิการ Brexit ของรัฐสภาอังกฤษ โดยจดหมายดังกล่าวลงวันที่ 24 ต.ค.

"เราใกล้บรรลุข้อตกลง Brexit แล้ว ถึงแม้ยังคงมีอุปสรรค แต่ก็ไม่เกินความสามารถของเราที่จะก้าวข้ามไป" เนื้อหาในจดหมายระบุ

-- อัยการตุรกีออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า นายจามาล คาช็อกกี นักข่าวซาอุดีอาระเบีย ได้ถูกสังหารทันทีที่เข้าไปในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียประจำนครอิสตันบูลในวันที่ 2 ต.ค.

อัยการระบุว่า นายคาช็อกกีได้ถูกรัดคอจนเสียชีวิต หลังจากนั้นทีมสังหารได้ทำการชำแหละร่างกายของเขา ก่อนที่จะนำไปทำลาย

นอกจากนี้ อัยการตุรกียังเปิดเผยว่า การหารือกับอัยการของซาอุดีอาระเบียในประเด็นดังกล่าวยังคงไม่มีความคืบหน้าใดๆ ขณะที่ทางตุรกีต้องการให้ซาอุดีอาระเบียเปิดเผยผู้ที่อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมนายคาช็อกกี

ทางด้านอัยการซาอุดีอาระเบียยอมรับเมื่อไม่นานมานี้ว่าการสังหารนายคาช็อกกีเกิดจากการไตร่ตรองล่วงหน้า ซึ่งขัดแย้งกับแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ที่อ้างว่านายคาช็อกกีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการต่อสู้กันระหว่างที่มีการสอบสวนนายคาช็อกกี

-- บริษัทฟูจิตสึเปิดเผยว่า แบตเตอรีที่มีการใช้ในโน้ตบุ๊กของบริษัทจำนวน 17.12 ล้านเครื่อง อาจมีความเสี่ยงที่จะลุกไหม้ได้

ฟูจิตสึระบุว่า โน้ตบุ๊กจำนวน 580 รุ่น หรือเกือบทั้งหมดที่มีการจำหน่ายในปี 2553-2559 ได้รับผลกระทบจากแบตเตอรีดังกล่าว

ทั้งนี้ บริษัทแนะนำให้ลูกค้าทำการอัพเดทซอฟต์แวร์เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว พร้อมกับเปิดเผยว่า มีรายงานยืนยันการเกิดเหตุการณ์ไฟลุกไหม้อย่างน้อย 45 ครั้งแล้ว แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยและวงเงินซื้อสินทรัพย์ไว้ในการประชุมเมื่อวานนี้ ท่ามกลางสถานการณ์เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ และความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งรวมถึงความตึงเครียดด้านการค้าที่สูงขึ้น

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า คณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ลงคะแนนเสียง 7 ต่อ 2 ให้คงผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวไว้ใกล้ระดับศูนย์ และเปิดทางไว้สำหรับความเคลื่อนไหวที่ยืดหยุ่น และยังมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับติดลบ 0.1%

นอกจากนี้ แบงก์ชาติญี่ปุ่นยังได้คงคำมั่นในเชิงสัญลักษณ์ไว้ว่า จะเพิ่มสัดส่วนการถือครองพันธบัตรรัฐบาลไว้ที่ระดับ 80 ล้านล้านเยนต่อปี และจะไม่เปลี่ยนแปลงปริมาณการซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เช่น กองทุน ETF ทั้งนี้ บอร์ดของธนาคารกลางญี่ปุ่นยังได้ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อเป็นเวลา 3 ปีงบประมาณไปจนถึงเดือนมี.ค. 2564

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ โดยเกาหลีใต้จะเปิดเผยดุลการค้าและอัตราเงินเฟ้อประจำเดือนต.ค. ขณะที่ออสเตรเลียจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.ย., ไฉซินจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนต.ค.ของจีน ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย ส่วนสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนต.ค.จากมาร์กิต และดัชนีภาคการผลิตเดือนต.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)

สำหรับวันพรุ่งนี้ ออสเตรเลียจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ย. ขณะที่มาร์กิตเตรียมเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนต.ค.ของกลุ่มยูโรโซน,เยอรมนีและฝรั่งเศส ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.ย., ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ