World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 14 พฤศจิกายน 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 14, 2018 09:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมยื่นร่างข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ต่อรัฐสภาอังกฤษในวันนี้ หลังจากตัวแทนการเจรจาจากอังกฤษและ EU สามารถตกลงกันเกี่ยวกับร่างข้อตกลง Brexit

เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของ EU กล่าวว่า ตัวแทนการเจรจาจากอังกฤษและ EU สามารถตกลงกันเกี่ยวกับร่างข้อตกลง Brexit ซึ่งได้มีการส่งไปยังนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เพื่อให้รัฐสภาให้การรับรองต่อไป

รายงานระบุว่า ตัวแทน 27 ชาติจาก EU จะได้รับการบรรยายสรุปในวันนี้เวลา 15.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นางเมย์ก็จะบรรยายสรุปให้แก่คณะรัฐมนตรีเช่นกัน โดย EU และอังกฤษจำเป็นที่จะต้องบรรลุข้อตกลง Brexit เพื่อให้การค้าระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายยังคงสามารถดำเนินต่อไปได้ หลังจากที่อังกฤษแยกตัวออกจาก EU อย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มี.ค.ปีหน้า

-- รัฐบาลอิตาลีปฏิเสธที่จะทบทวนร่างงบประมาณประจำปี 2562 แม้มีข้อกำหนดว่าร่างงบประมาณของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) จะต้องสอดคล้องกับกฎระเบียบด้านการคลังของ EU ก็ตาม

ในหนังสือที่รัฐบาลอิตาลีเตรียมยื่นต่อคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) นั้น ระบุว่า รัฐบาลอิตาลีจะยังคงเป้าหมายตัวเลขการขาดดุลงบประมาณเอาไว้ที่ระดับ 2.4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2562 และคงตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของ GDP ในปี 2562 เอาไว้ที่ระดับ 1.5%

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้ปฏิเสธข้อเสนอร่างงบประมาณประจำปี 2562 ของรัฐบาลอิตาลี โดยระบุว่า อิตาลีจะต้องทำการทบทวนข้อเสนอร่างงบประมาณประจำปี 2562 หลังจากรัฐบาลอิตาลีได้เพิ่มตัวเลขขาดดุลงบประมาณสู่ระดับ 2.4% ของ GDP ในปี 2562 แม้ว่ารัฐบาลชุดเดิมของอิตาลียืนยันรักษาตัวเลขขาดดุลที่ 0.8% ของ GDP และ EU มองว่าร่างงบประมาณปี 2562 ของอิตาลีขัดต่อกฎหมายทางการเงินของ EU

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดทรุดตัวลงกว่า 7% เมื่อคืนนี้ หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปี 2562 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กดดันซาอุดีอาระเบียและกลุ่มโอเปกไม่ให้ปรับลดกำลังการผลิต โดยปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 12 ซึ่งเป็นการปิดลบที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบ WTI ในปี 2526

ตลาดน้ำมันเข้าสู่ "ภาวะหมี (bear market)" แล้วในขณะนี้ หลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดตลาดร่วงลงติดต่อกันยาวนานถึง 12 วันทำการ โดยปัจจัยกดดันล่าสุดมาจากรายงานภาวะตลาดน้ำมันประจำเดือนพ.ย.ของกลุ่มโอเปกซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อวานนี้ โดยโอเปกคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันโลกในปีหน้าจะขยายตัวเพียง 1.29 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งลดลง 70,000 บาร์เรล/วันจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนที่แล้ว และเป็นการปรับลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน

ขณะเดียวกันโอเปกคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะเพิ่มขึ้น 2.23 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า โดยเพิ่มขึ้น 120,000 บาร์เรล/วันจากตัวเลขคาดการณ์ล่าสุด

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความเพื่อเรียกร้องซาอุดีอาระเบีย และโอเปกไม่ให้ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน โดยกล่าวว่า "ราคาน้ำมันควรจะปรับตัวลดลงมากกว่านี้เมื่อพิจารณาจากภาวะอุปทานน้ำมัน และหวังว่าซาอุดีอาระเบียและกลุ่มโอเปกจะไม่ปรับลดการผลิต"

-- นายแลร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า สหรัฐกำลังเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้ากับจีน

"ผมคิดว่าการเจรจาเป็นไปด้วยดีอย่างมาก" นายคุดโลว์กล่าว โดยยืนยันรายงานก่อนหน้านี้ที่ว่า นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้เริ่มต้นหารือทางการค้ากับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน

นายคุดโลว์กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลสหรัฐและจีนกำลังเจรจากันในทุกระดับ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงนอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินาในปลายเดือนนี้

นอกจากนี้ นายคุดโลว์ยังระบุว่า สหรัฐมีการเจรจาทางการค้าที่ดีกับสหภาพยุโรป และญี่ปุ่น

-- นายมหาธีร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวว่า โกลด์แมน แซคส์ได้โกงมาเลเซียในกรณีออกพันธบัตรเพื่อระดมทุนในการจัดตั้งกองทุน 1MDB ซึ่งพัวพันกับข่าวอื้อฉาวของการฟอกเงิน และการติดสินบน

ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์กำลังถูกตรวจสอบจากบทบาทในการเป็นผู้ออกพันธบัตรเพื่อระดมทุนจัดตั้งกองทุน 1MDB ที่เจ้าหน้าที่จาก 6 ประเทศกำลังสอบสวนในคดีที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน และการคอรัปชั่น

-- บริษัทอเมซอนออกแถลงการณ์ว่า บริษัทได้ตัดสินใจเลือกนิวยอร์ก ซิตี้ และนอร์เทิร์น เวอร์จิเนีย เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ นอกเหนือจากสำนักงานใหญ่ที่ขณะนี้ตั้งอยู่ที่ซีแอตเติล

ทั้งนี้ อเมซอนจะลงทุนเป็นเงินจำนวน 2.5 พันล้านดอลลาร์ในแต่ละเมืองดังกล่าว รวมทั้งจะมีการจ้างงาน 25,000 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ อเมซอนยังประกาศแผนการลงทุนในเมืองแนชวิลล์เพื่อสร้างศูนย์การดำเนินงานแห่งใหม่ ซึ่งจะมีการจ้างงาน 5,000 ตำแหน่ง

-- หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า บริษัทสตาร์บัคเตรียมปลดพนักงานทั่วโลกจำนวน 5%

ทั้งนี้ นายเควิน จอห์นสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสตาร์บัค ระบุว่า การปลดพนักงานดังกล่าว จะกระทบต่อพนักงานจำนวน 350 คนในฝ่ายการตลาด, ครีเอทีฟ, ผลิตภัณฑ์, เทคโนโลยี และฝ่ายพัฒนาสโตร์

รายงานข่าวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่บริษัทสตาร์บัคเปิดเผยในเดือนก.ย.ว่า บริษัทจะทำการปลดพนักงานเพื่อปรับโครงสร้างบริษัท

-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ยอดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร, การผลิตภาคอุตสาหกรรม, ยอดค้าปลีก และยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ประจำเดือนต.ค. ของจีน อัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค.ของอังกฤษ การประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2561 (ครั้งที่ 2) และยอดการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย. ของอียู รวมถึงอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค.ของสหรัฐ

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ออสเตรเลียเตรียมเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนต.ค. จีนเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค. และอังกฤษเตรียมเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนต.ค. ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนต.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนพ.ย.จากเฟดนิวยอร์ก, ดัชนีการผลิตเดือนพ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ