ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อีกครั้งเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เฟดเป็นตัวปัญหา และเขาต้องการให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง
ปธน.ทรัมป์กล่าวผู้สื่อข่าวว่า "ผมอยากให้เฟดลดดอกเบี้ยลง ผมว่าดอกเบี้ยของเราตอนนี้สูงเกินไป และผมก็คิดว่าเรามีกำลังปัญหากับเฟดมากกว่าหน่วยงานอื่นๆ"
ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ได้เคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเฟดมาแล้วว่า เฟดถือเป็นภัยคุกคามใหญ่ที่สุดสำหรับเขา และตนเองวิตกกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
ปธน.ทรัมป์ กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฟ็อกซ์เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมาว่า "ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดของผมก็คือเฟด เพราะเฟดกำลังขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป" พร้อมระบุว่า นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เข้มงวดเกินไปในการใช้นโยบายการเงิน และกำลังดำเนินการอย่างผิดพลาด
ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวโจมตีเฟดอีกว่า "ผมมีปัญหากับเฟด โดยเฟดได้เสียสติไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าพวกเขามีปัญหาอะไรถึงได้เดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าขันสิ้นดี ไม่มีเหตุผลอะไรที่เฟดจะต้องทำอย่างนั้น ซึ่งผมไม่ชอบเลย"
ทั้งนี้ เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 6 ครั้งนับตั้งแต่ที่นายทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนม.ค.ปีที่แล้ว เทียบกับที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในสมัยของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา
เฟดได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว 3 ครั้งในปีนี้ และยังส่งสัญญาณปรับขึ้นอีก 1 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้ โดยมีแนวโน้มว่า เฟดจะปรับขึ้นอีก 3 ครั้งในปีหน้า ซึ่งสร้างความวิตกกังวลให้กับตลาด โดยมีนักลงทุนบางส่วนออกมาระบุว่า การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจะสร้างความวุ่นวายให้กับตลาด และเป็นสาเหตุให้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา