ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 354.29 จุด หรือ 1.46% เมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นบริษัทค้าปลีกที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากอะโดบี อนาลิติค คาดการณ์ว่า ยอดขายทางออนไลน์ในวันไซเบอร์มันเดย์ในปีนี้จะพุ่งขึ้นเกือบ 18% จากปีที่แล้ว แตะที่ระดับ 7.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะมีมติปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมเดือนหน้า
-- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐขู่ว่าจะผลักดันมาตรการเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน มูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าผู้นำสหรัฐจะเดินหน้าบังคับใช้มาตรการกีดกันทางภาษีที่เหลือทั้งหมดกับสินค้านำเข้าจากจีน หากการเจรจาระหว่างตนกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีนไม่ก่อให้เกิดข้อตกลงทางการค้าระหว่างกัน
ถ้อยแถลงของผู้นำสหรัฐมีขึ้นในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอลล์ สตรีท เจอร์นัล กล่าวว่า ตนเตรียมที่จะกำหนดมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน มูลค่า 2.67 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หากตนไม่สามารถเห็นพ้องกับประธานาธิบดีสีในที่ประชุม G20 ณ ประเทศอาร์เจนตินาในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ พร้อมระบุว่า อัตราภาษีอาจอยู่ที่ 10% หรือ 25% ขณะเดียวกัน iPhone และแล็ปท็อปของบริษัทแอปเปิล ที่นำเข้าจากจีน อาจได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีใหม่ด้วย
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ข้อตกลง Brexit ของนางเทเรซา เมย์ อาจส่งผลกระทบต่อข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐกับสหราชอาณาจักร ขณะที่ไม่ได้ระบุแน่ชัดถึงประเด็นของข้อตกลงที่ก่อให้เกิดความวิตกกังวล แต่ผู้นำสหรัฐกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ข้อตกลงถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit) นั้น "ดูเหมือนจะเป็นข้อตกลงที่ยอดเยี่ยมสำหรับสหภายุโรป (EU)"
ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า "เราต้องพิจารณาอย่างจริงจังว่าสหราชอาณาจักรจะได้รับอนุญาตให้ทำการค้าหรือไม่ เนื่องจากในตอนนี้หากพิจารณาไปที่ข้อตกลงดังกล่าวจะพบว่า พวกเขาอาจจะไม่สามารถทำการค้ากับเราได้ และนั่นไม่ใช่เรื่องดี"
ด้านรัฐบาลสหราชอาณาจักรยืนยันว่าข้อตกลง Brexit มีความ "ชัดเจนมาก" ว่าสหราชอาณาจักรจะมีนโยบายการค้าที่เป็นอิสระ เพื่อให้สามารถลงนามข้อตกลงการค้ากับประเทศต่างๆทั่วโลก ขณะที่นางเทเรซา เมย์เผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากสมาชิกสภา เมื่อวานนี้ แต่ย้ำว่า ข้อตกลงนี้เป็นการ "ส่งมอบอำนาจคืนให้กับประชาชน" ด้วยการควบคุมกฎหมาย, เงินตราและพรมแดน โดยสภาอังกฤษเตรียมลงมติต่อข้อตกลง Brexit ในวันที่ 11 ธันวาคมนี้
-- รัฐบาลยูเครนประกาศกฎอัยการศึกในหลายพื้นที่ของประเทศ หลังเกิดเหตุเรือของกองทัพปะทะเข้ากับเรือยามฝั่งของรัสเซียในทะเลนอกชายฝั่งของแคว้นไครเมีย ก่อนที่เรือของรัสเซียจะเปิดฉากยิงเข้าใส่ และยึดเรือของกองทัพยูเครน 3 ลำ พร้อมลูกเรือ 23 นาย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลยูเครนประณามว่าเป็น "การกระทำรุกราน" ของรัสเซีย ขณะที่รัสเซียกล่าวหาว่า เรือกองทัพยูเครนลุกล้ำน่านน้ำอย่างผิดกฎหมาย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่สมาชิกสภานิติบัญญัติเห็นพ้องหนุนนายเปโดร โปโรเชงโค ประธานาธิบดีของยูเครน ซึ่งเรียกร้องให้บังคับใช้กฎอัยการศึกในภูมิภาคที่มีพรมแดนติดกับประเทศรัสเซีย โดยจะมีระยะเวลา 30 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายนเป็นต้นไป เปิดทางให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าจำกัดการชุมนุมสาธารณะและควบคุมสื่อได้
-- บริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยในวันนี้ว่า ทางบริษัทจะระงับการผลิตรถยนต์ในโรงงานหลายแห่งในสหรัฐและแคนาดาในปีหน้า รวมทั้งจะปลดพนักงาน 15% หรือมากกว่า 14,000 คน ในการปรับโครงสรัง ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย 6 พันล้านดอลลาร์ต่อปีจนถึงปลายปี 2563
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังผู้ผลิตรถยนต์ของสหรัฐรายนี้ ต้องเผชิญกับปัญหาด้านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและยอดขายรถยนต์ที่ชะลอตัวลง ขณะเดียวกันบริษัทยังหันไปให้ความสำคัญกับการผลิตรถกระบะ, รถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไร้คนขับ อย่างไรก็ดี การปรับโครงสร้างดังกล่าวสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากจากนักการเมือง รวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ระบุว่า ตนไม่พอใจกับเรื่องนี้
-- กระทรวงการต่างประเทศของเม็กซิโกยื่นหนังสือทางการทูตต่อรัฐบาลสหรัฐ เพื่อเรียกร้องให้ดำเนินการตรวจสอบอย่างเต็มรูปแบบ ต่อกรณีการใช้อาวุธที่ไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตยิงเข้าใส่ผู้อพยพ บริเวณพรมแดนเม็กซิโก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศเม็กซิโกระบุว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้อพยพในเม็กซิโก บริเวณจุดข้ามแดนของเมืองตีฮัวนาและเมืองซาน ดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย หลังจากที่ผู้อพยพบางส่วนพยายามที่จะข้ามเข้าไปในสหรัฐอเมริกา
-- หุ่นยนต์ InSight ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (NASA) ของสหรัฐประสบความสำเร็จในการลงจอดบนดาวอังคารแล้ว หลังผ่านช่วงเวลาสุดระทึกของขั้นตอนการลงสู่พื้นผิวเป็นเวลานาน 7 นาที ก่อนแตะพื้นดาวเคราะห์สีแดงดวงนี้เมื่อเวลา 02.53 น. ที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย
สำหรับหุ่นยนต์สำรวจดาวอังคารตัวใหม่ของ NASA จะศึกษาโครงสร้างภายในของดาวอังคาร และได้ส่งภาพถ่ายภูมิประเทศของดาวเคราะห์ดวงนี้ส่งกลับมายังพื้นโลกแล้ว ในเวลาไม่กี่นาทีหลังลงจอด โดยเป็นภาพวิวทิวทัศน์ของพื้นที่ราบเอลีเซียม แพลนิเทีย จากเลนส์ตาปลาที่เต็มไปด้วยรอยเปื้อนจากฝุ่น แต่จะส่งภาพที่ชัดกว่ากลับมาภายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า กำไรของบริษัทขนาดใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมของจีนในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัว 13.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ลดลงจากช่วงเดือนม.ค.-ก.ย. ซึ่งมีการขยายตัว 14.7%
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนพ.ย. และจีนจะเปิดเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. ฝรั่งเศสจะเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย. ส่วนสหรัฐจะเปิดเผยราคาบ้านเดือนพ.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จาก Conference Board
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนพ.ย. เยอรมนีจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จาก GfK ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยกำไรภาคธุรกิจไตรมาส 3/2561, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2561 (ประมาณการครั้งที่ 2), สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเบื้องต้นเดือนต.ค. , ยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค. , ดัชนีการผลิตเดือนพ.ย.โดยเฟดสาขาริชมอนด์และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)