World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 3 ธันวาคม 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 3, 2018 10:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเปิดตลาดพุ่งขึ้นถ้วนหน้าในวันนี้ ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าทะยานขึ้นกว่า 400 จุดในช่วงเช้านี้เช่นกัน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ได้บรรลุข้อตกลงเพื่อยุติข้อพิพาทการค้าชั่วคราว หลังจากที่ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้พบปะหารือกันนอกรอบการประชุม G20 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง เห็นพ้องกันให้เลื่อนกำหนดระยะเวลาที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ออกไป 90 วัน จากกำหนดเวลาเดิมในวันที่ 1 ม.ค.2562 เพื่อเปิดทางให้ทั้งสองฝ่ายได้เดินหน้าเจรจายุติข้อพิพาทการค้าระหว่างกันต่อไป

ในแถลงการณ์ซึ่งทำเนียบขาวเผยแพร่ออกมาหลังเสร็จสิ้นการหารือระหว่างผู้นำจีน-สหรัฐ ระบุว่า กำหนดการเรียกเก็บภาษีจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 ม.ค.2562 นี้ จะถูกเลื่อนออกไป 90 วัน

"หากสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ยังหาข้อตกลงกันไม่ได้ ก็จะมีการขึ้นภาษีจาก 10% เป็น 25%" ทำเนียบขาวระบุ

-- นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ประกาศว่า รัสเซียและซาอุดีอาระเบียได้ตกลงที่จะขยายข้อตกลงระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กับประเทศนอกกลุ่มโอเปก หรือที่เรียกว่า "โอเปกพลัส" ต่อไปในปี 2562 โดยมีจุดประสงค์เพื่อควบคุมตลาดน้ำมัน

ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังปธน.ปูตินได้พบปะกับมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย นอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรสเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้ตกลงกันว่าจะปรับลดกำลังการผลิตหรือไม่ โดยปธน.ปูติน แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องตัวเลข แต่รัสเซียและซาอุดีอาระเบียจะติดตามความเคลื่อนไหวในตลาดต่อไป และร่วมกันหาแนวทางรับมืออย่างทันท่วงที

-- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 50.2 ในเดือนพ.ย. ขยับขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 50.1 ในเดือนต.ค.

ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนมีการขยายตัว ขณะที่ดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคการผลิต

-- คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) เปิดเผยว่า จีนมีการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 16.09 ล้านตัน ขณะที่ยอดการกลั่นน้ำมันดิบในเดือนดังกล่าวอยู่ที่ 52.78 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 4.6%

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า การประชุมสุดยอดครั้งที่สองระหว่างเขากับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ อาจเกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2562 ที่จะถึงนี้

สื่ออเมริกันหลายสำนักรายงานว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน ระหว่างเดินทางเยือนประเทศอาร์เจนตินา เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ G20 ว่า การประชุมอาจเกิดขึ้นช่วงต้นปี 2562 โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาสถานที่จัดการประชุมสามแห่ง

-- นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของจีนกล่าวว่า จีนจะให้ความร่วมมือกับสหรัฐและเกาหลีเหนือในการดำเนินการปลดอาวุธนิวเคลียร์ออกจากคาบสมุทรเกาหลี

นายหวังระบุว่า ระหว่างพูดคุยกับผู้นำสหรัฐ นายสีได้แสดงท่าทีสนับสนุนให้มีการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำของสหรัฐและเกาหลีเหนือเกิดขึ้นต่อไป

-- ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการซื้อขายในวันพุธที่ 5 ธ.ค.นี้ เพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่นายจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีคนที่ 41 ของสหรัฐ ซึ่งถึงแก่อสัญกรรมในวัย 94 ปี เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 30 พ.ย.ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐ

ทั้งนี้ นายจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช ป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน และเข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเขาได้ถูกนำตัวเข้ารับการรักษาในห้องไอซียู จากภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด เมื่อเดือนเม.ย.

นายจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในระหว่างปี 2532-2537 และเคยเป็นทหารผ่านศึกในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งยังเคยเป็นผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลาง (CIA) และเคยเป็นรองประธานาธิบดีสองสมัยของประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน

สำหรับชีวิตครอบครัวนั้น นางบาร์บารา บุช ภริยา เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อประมาณ 8 เดือนก่อน ส่วนนายจอร์จ ดับเบิลยู บุช บุตรชาย ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 43 ของสหรัฐ

-- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้ส่งสาสน์แสดงความเสียใจไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อการถึงแก่อสัญกรรมของนายจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีคนที่ 41 ของสหรัฐ

นายสีกล่าวในสาสน์แสดงความอาลัยว่า ในฐานะตัวแทนของรัฐบาล, ประชาชนชาวจีน และตัวข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการถึงแก่อสัญกรรมของอดีตประธานาธิบดีบุช และส่งความเห็นอกเห็นใจไปยังสมาชิกในครอบครัวของท่านอดีตประธานาธิบดีด้วยความจริงใจ

-- นักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยการประชุมดังกล่าวจะมีการกำหนดนโยบายสำหรับปี 2562

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า โอเปกอาจปรับลดกำลังการผลิต 1.0-1.4 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เริ่มมีความไม่แน่นอนต่อการดำเนินการของโอเปกในการประชุมเดือนหน้า หลังจากซาอุดีอาระเบียส่งสัญญาณว่าจะไม่ดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียวในการปรับลดกำลังการผลิต ขณะที่ไนจีเรียก็ได้ปฏิเสธที่จะให้การยืนยันการปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหม่

-- ตลาดการเงินจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ โดยมาร์กิตจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย.ของฝรั่งเศส เยอรมนี อียู อังกฤษ สหภาพยุโรป และสหรัฐ ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.ของสหรัฐ

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 และอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย. ขณะที่ธนาคารกลางออสเตรเลียประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนพ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ