World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 4 ธันวาคม 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 4, 2018 09:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 287.97 จุด หรือ 1.13% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวผู้นำสหรัฐและจีนที่บรรลุข้อตกลงยุติข้อพิพาทการค้าชั่วคราว โดยปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งมีความอ่อนไหวต่อสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ ขณะที่หุ้นกลุ่มรถยนต์พุ่งขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า จีนได้ตกลงที่จะ "ลดและยกเลิก" การเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐ ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นเกือบ 4% นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนดัชนี Nasdaq ปิดตลาดทะยานขึ้นกว่า 100 จุด

-- นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐเปิดเผยว่า รัฐบาลจีนเห็นพ้องที่จะลดอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ แต่ยังปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า จีนตกลงที่จะ "ลดและยกเลิก" ภาษีนำเข้ารถยนต์อเมริกัน ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่มีขึ้นเพียงไม่นานหลังจากที่ทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนพบหารือกันในที่ประชุมสุดยอด G20 ณ อาร์เจนตินา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า จีนจะลดภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐในทันทีหรือเป็นผลพวงจากข้อตกลงที่กว้างขึ้นหรือไม่ ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นการเปลี่ยนแปลงมาตรการภาษีรถยนต์ใดๆ ในระหว่างการแถลงตอบข้อซักถามที่มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังผู้นำสหรัฐทวีตข้อความดังกล่าว

-- นายแลร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวเปิดเผยว่า สหรัฐและจีนใกล้จะบรรลุข้อตกลงในการยุติปัญหาการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาในอีกไม่ช้านี้ โดยระบุว่า ทั้งสองประเทศ "ใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงบางประการในประเด็นการบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยีจากบริษัทอเมริกัน" แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคืบหน้าของกระบวนการ

ที่ผ่านมา สหรัฐได้กล่าวหาว่าจีนขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยีจากบริษัทสหรัฐที่แสวงหาแนวทางดำเนินธุรกิจในจีน ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาในการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

-- Sankei สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า นายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานบริษัทนิสสัน มอเตอร์ อาจถูกจับกุมอีกครั้งในช่วงสัปดาห์หน้า เนื่องจากอัยการกรุงโตเกียวเพิ่มข้อกล่าวหาล่าสุดที่ระบุว่า นายกอส์นแจกแจงรายได้ต่ำกว่าที่เคยรายงานก่อนหน้านี้ โดยอัยการเตรียมจับกุมนายอดีตประธานนิสสันและนายเกร็ก เคลลี อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของบอร์ดบริหารนิสสันอีกครั้งในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า อัยการเชื่อว่านายกอส์นชี้แจงรายได้ต่ำกว่าความเป็นจริงถึง 9 พันล้านเยน (79.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

ทั้งนี้ นายกอส์นและนายเคลลีถูกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จากข้อกล่าวหากระทำความผิดชี้แจงรายได้ต่ำกว่าความเป็นจริงรวม 5 พันล้านเยนในช่วงระยะเวลา 5 ปี สิ้นสุดในปีงบประมาณ 2557 และถูกปลดออกจากตำแหน่งประธานบริษัท โดยข้อกล่าวหาล่าสุดของพนักงานอัยการครอบคลุมถึงการแจกแจงรายได้ต่ำกว่าความเป็นจริงจนถึงปี 2560

-- เจ้าหน้าที่สหรัฐได้นำหีบบรรจุร่างของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช ตั้งไว้ที่ห้องโถง ณ อาคารรัฐสภาสหรัฐ หลังจากที่ได้มีการเคลื่อนย้ายออกจากบ้านพักในรัฐเท็กซัสและขนส่งมายังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี ด้วยเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อให้ประชาชนได้แสดงความไว้อาลัยต่อการจากไปของอดีตประธานาธิบดีคนที่ 41 ของสหรัฐเป็นครั้งสุดท้าย

สำหรับพิธีศพของอดีตประธานาธิบดีบุชผู้พ่อจะจัดขึ้นที่มหาวิหารแห่งชาติวอชิงตันในวันพุธ ซึ่งรัฐบาลประกาศให้เป็นวันหยุดราชการ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมด้วยนางเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลข 1 จะเข้าร่วมในพิธี ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายกลับไปประกอบพิธีฝังที่บ้านพักของอดีตผู้นำสหรัฐท่านนี้ในรัฐเท็กซัส เคียงข้างหลุมฝังศพนางบาร์บารา บุช อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1

-- หญิงชราชาวฝรั่งเศสวัย 80 ปีเสียชีวิตหลังถูกกระแทกด้วยถังบรรจุแก๊สน้ำตาบริเวณหน้าต่างอพาร์ทเมนท์ของตัวเองในเมืองมาร์แซย์ ระหว่างการชุมนุมประท้วงต่อต้านการขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิงของกลุ่ม "เสื้อกั๊กเหลือง" เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

สื่อท้องถิ่นรายงานว่า หญิงชราคนดังกล่าวอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์ใกล้กับสถานที่ชุมนุมประท้วง และถูกถังบรรจุแก๊สน้ำตากระแทกเข้าที่ใบหน้าในขณะที่เธอพยายามปิดหน้าต่าง ก่อนที่จะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงทันที แต่เสียชีวิตระหว่างการผ่าจัดจากอาการช็อก

สำหรับการประท้วงต่อต้านการขึ้นราคาเชื้อเพลิงในฝรั่งเศสได้ลุกลามกลายเป็นความโกรธแค้นต่อประเด็นค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น และมีรายงานผู้เสียชีวิตอีก 3 คน นับตั้งแต่การชุมนุมเปิดฉากขึ้นเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ท่ามกลางความพยายามของนายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่แสวงหาแนวทางในการลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้น

-- สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นอยู่ในระหว่างพิจารณาเพื่อเชิญประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ให้เดินทางเยือนญี่ปุ่นในเดือนพ.ค.ปีหน้า

นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังเตรียมจัดการพบปะกันระหว่างปธน.ทรัมป์ และเจ้าชายนารุฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น ซึ่งจะขึ้นเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิองค์ใหม่ของญี่ปุ่นในวันที่ 1 พ.ค. 2562

-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ขยายตัว 0.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีที่แล้ว

ส่วนในไตรมาส 2 ที่ผ่านมานั้น GDP เกาหลีใต้ขยายตัวในอัตรา 0.6% เช่นกัน ซึ่งส่งผลให้ GDP เกาหลีใต้ขยายตัวต่ำกว่าระดับ 1% ติดต่อกัน 2 ไตรมาส

หากเทียบเป็นรายปี GDP เกาหลีใต้ขยายตัว 2% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2552

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยธนาคารกลางออสเตรเลียประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนพ.ย.

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนพ.ย. ส่วนออสเตรเลียเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2561 จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ย.จากไฉซิน ด้านฝรั่งเศส เยอรมนีและอังกฤษเตรียมเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ย.จากมาร์กิต อียูเตรียมเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ย.จากมาร์กิตและยอดค้าปลีกเดือนต.ค. ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ย.จาก ADP, ผลิตภาพ-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยไตรมาส 3/2561, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และ รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ