World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 28 ธันวาคม 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 28, 2018 17:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างอิงรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ กำลังพิจารณาลงนามในคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดี (Executive Order) ในเดือนม.ค. เพื่อประกาศภาวะฉุกเฉินระดับชาติ และสั่งห้ามบริษัทสหรัฐใช้อุปกรณ์โทรคมนาคมที่ผลิตโดยบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี และบริษัท ZTE ของจีน

รายงานดังกล่าวอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า สหรัฐกล่าวหาว่าทั้ง 2 บริษัททำงานภายใต้คำสั่งของรัฐบาลจีน และอุปกรณ์ของทั้ง 2 บริษัทสามารถใช้เพื่อสอดแนมพลเมืองสหรัฐได้

--สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐได้ประชุมร่วมกันเป็นเวลาสั้นเมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ ก่อนที่จะเลื่อนการประชุมไปเป็นสัปดาห์หน้า ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณว่าทุกฝ่ายจะสามารถตกลงกันเรื่องการผ่านร่างงบประมาณสร้างกำแพงได้ ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะชัตดาวน์ในหน่วยงานบางส่วนของสหรัฐ

สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐจะประชุมกันอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 31 ธ.ค. โดยจะเป็นการประชุมแบบ pro forma ซึ่งเป็นการประชุมย่อยเพียงไม่กี่นาที ก่อนจะเปิดการประชุมที่อาคารรัฐสภาในวันพุธที่ 2 ม.ค. เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับงบการสร้างกำแพง

--สำนักงานสถิติเกาหลีใต้รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ประจำเดือนพ.ย.หดตัวลง 0.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยมีปัจจัยมาจากยอดส่งออกผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักนั้น ปรับตัวลดลง และการผลิตในภาคบริการที่ลดลงเช่นกัน

การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ประจำเดือนพ.ย.ลดลง 5.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ในขณะที่ยอดส่งออกชิปคอมพิวเตอร์ลดลงถึง 18.9%

--กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เปิดเผยวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. ปรับตัวลง 1.1% จากเดือนก่อนหน้า

รายงานเบื้องต้นของกระทรวงฯ ระบุว่า เมื่อปรับค่าตามฤดูกาลแล้ว ดัชนีการผลิตในโรงงานและเหมืองแร่แตะที่ระดับ 104.7 เมื่อเทียบกับฐานดัชนีดังกล่าวในปี 2558 ที่ระดับ 100 หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนต.ค.

--กระทรวงกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุนเปิดเผยว่า อัตราว่างงานเดือนพ.ย.อยู่ที่ระดับ 2.5% เพิ่มขึ้น 0.1% จากเดือนต.ค. เนื่องจากตลาดแรงงานซึ่งอยู่ในภาวะตึงตัวมากที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ส่งผลให้พนักงานลาออกจากงาน เพื่อแสวงหาตำแหน่งงานที่ดีกว่าเดิม

รายงานระบุว่า ตำแหน่งงานว่างเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า บริษัทเอกชนยังคงต้องการรับคนงานมากขึ้น ท่ามกลางภาวะขาดแคลนแรงงานที่รุนแรง

--รายงานสรุปความคิดเห็นของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในการประชุมรอบเดือนธ.ค. บ่งชี้ว่า กรรมการแต่ละรายมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ในเรื่องการกำหนดกรอบการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น

รายงานระบุว่า ทางคณะกรรมการมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ซึ่งยังคงมีทิศทางที่ไม่แน่นอน ประกอบกับผลกระทบจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินเป็นเวลานาน ขณะที่กรรมการบางรายได้กล่าวเสริมเรื่องการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน และผลกระทบจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน

--ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เผยผลสำรวจความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อจากสถาบันการเงิน 23 แห่ง ซึ่งทำขึ้นในระหว่างวันที่ 9-16 พ.ย.ที่ผ่านมาพบว่า เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่กล่าวว่า ลูกค้ารายใหญ่ของพวกเขาที่ได้เข้าลงทุนในตลาดเกิดใหม่ได้ปรับลดการลงทุนในสินทรัพย์สินลง

เฟดกล่าวว่า "ผู้ตอบแบบสอบถามประมาณ 3 ใน 4 รายงานว่า ลูกค้าที่ลงทุนในเฮดจ์ฟันด์และกองทุนรวมกำลังได้รับผลกระทบบางอย่างจากตลาดเกิดใหม่ ซึ่งรวมถึงความสับสนอลหม่านที่เกิดขึ้นในตลาด

--รัฐบาลญี่ปุ่นอนุมัติรายโครงการเพิ่มการสนับสนุนด้านการศึกษาและการดูแลเด็ก ซึ่งรวมถึงการให้ทุนเรียนระดับชั้นอนุบาลในโรงเรียนรัฐบาลฟรีสำหรับเด็กทุกคนที่อยู่ในวัย 3-5 ปี โดยมีผลบังคับใช้ในเดือนต.ค. 2562

นโยบายดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อแก้ปัญหาอัตราการเกิดที่ลดลง นอกจากนี้ รัฐบาลจะมอบสวัสดิการดูแลเด็กเวลากลางวันฟรีจนถึงอายุ 2 ปีสำหรับครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนต.ค. ปี 2562 อีกทั้งยังมีโครงการมอบทุนการศึกษาแก่นักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยที่มาจากครอบครัวที่มีรายได้ต่ำซึ่งจะเริ่มต้นในเดือนเม.ย. 2563

--นางหัว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนพร้อมที่จะส่งเสริมความร่วมมือกับสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ในการจัดการภัยพิบัติ เพื่อพัฒนาศักยภาพในการป้องกันและลดความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากภัยพิบัติในเขตภูมิภาค

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนเปิดเผยในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หลังถูกขอให้แสดงความคิดเห็นด้านความร่วมมือระหว่างจีนและ ASEAN เกี่ยวกับสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในขณะนี้ หลังจากเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มอินโดนีเซียและสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อชีวิตและทรัพย์สิน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ