World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 9 มกราคม 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 9, 2019 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้แถลงที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาววันนี้ โดยกล่าวว่า กำแพงกั้นพื้นที่ชายแดนตอนใต้ซึ่งมีพรมแดนติดกับเม็กซิโกนั้น จะช่วยป้องกันการลักลอบการขนยาเสพติดข้ามแดน พร้อมระบุว่า ชาวอเมริกันได้รับความเดือดร้อนจากการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายและไม่สามารถควบคุมได้ นอกจากนี้ ทรัมป์เตือนว่า ชาวอเมริกันหลายพันคนได้ถูกสังหารโดยไม่มีการดำเนินการที่เฉียบขาดในพื้นที่ชายแดน

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า การสร้างกำแพงชายแดนจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างรวดเร็ว พร้อมระบุว่า พรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสปฏิเสธที่จะรับรู้ถึงวิกฤตการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับประเทศชาติในขณะนี้

ในการแถลงครั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ได้ขอให้ประชาชนออกมาเรียกร้องสภาคองเกรสอนุมัติการสร้างกำแพง

ถ้อยแถลงของปธน.ทรัมป์มีขึ้นในในขณะที่การปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐล่วงเข้าสู่วันที่ 18 เนื่องจากทำเนียบขาวและแกนนำพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสยังไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นการจัดสรรงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์

-- ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลงแตะ 2.9% ในปี 2562 ซึ่งลดลงจากระดับคาดการณ์ที่ 3% ในปี 2561 ท่ามกลางแรงกดดันจากปัจจัยต่าง ๆ

รายงานคาดการณ์เศรษฐกิจโลกฉบับล่าสุด ระบุว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจโลกในปีนี้มีแนวโน้ม "ชะลอตัวลง" เนื่องจากนโยบายการเงินที่ค่อนข้างเข้มงวด ขณะที่ความตึงเครียดทางการค้าก็ได้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ตลาดเกิดใหม่ขนาดใหญ่และประเทศกำลังพัฒนายังประสบปัญหาด้านวิกฤตตลาดการเงินอีกด้วย

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยเพิ่มขึ้น 256.10 จุดเมื่อคืนนี้ ขานรับความหวังที่ว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะมีความคืบหน้าด้วยดี ซึ่งสัญญาณบวกดังกล่าวได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นเฟซบุ๊กที่พุ่งขึ้นกว่า 3% หลังจากเจพีมอร์แกนจัดอันดับให้หุ้นเฟซบุ๊กเป็นหนึ่งในหุ้นที่น่าลงทุนในปี 2562

-- นายสตีเวน วินเบิร์ก เจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงานสหรัฐ เปิดเผยกับสื่อมวลชนที่กรุงปักกิ่งว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะยังคงดำเนินต่อไปในวันนี้ จากเดิมที่มีกำหนดเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ พร้อมระบุว่า การเจรจาของทั้งฝ่ายดำเนินไปด้วยดี

"การเจรจาตลอดระเวลา 2 วันที่ผ่านมา เป็นไปด้วยดี และผมยืนยันว่าการเจรจาจะดำเนินต่อไปในวันนี้" นายวินเบิร์กกล่าว

คำยืนยันของนายวินเบิร์กมีขึ้นหลังจากสื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานข่าวเกี่ยวกับการยืดเวลาการเจราจา โดยสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะยังคงดำเนินต่อไปในวันนี้ จากเดิมที่มีกำหนดเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้

ขณะที่สำนักข่าวดาวโจนส์รายงานว่า ทั้งสองฝ่ายสามารถลดช่องว่างบางส่วนของความคิดเห็นที่แตกต่างกัน โดยการเจรจามีความคืบหน้าจากการที่จีนเห็นพ้องที่จะเพิ่มการซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐ อย่างไรก็ดี ดาวโจนส์ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายยังไม่พร้อมที่จะทำข้อตกลงการค้าในขณะนี้ และจะมีการหารือกันหลังจากนี้ของเจ้าหน้าที่ในระดับรัฐมนตรีภายในเดือนนี้

-- นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือเดินทางเยือนประเทศจีนเมื่อวานนี้ ตามคำเชิญของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 4 ที่นายคิมเดินทางเยือนจีน โดยโฆษกสำนักงานฝ่ายกิจการต่างประเทศในสังกัดกรมการเมืองของคณะกรรมาธิการกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ระบุว่า นายคิมจะพำนักอยู่ในประเทศจีนในระหว่างวันที่ 7-10 ม.ค.

ด้านเกาหลีใต้ก็ได้ออกมาแสดงความหวังว่า การเดินทางเยือนประเทศจีนของนายนายคิม จอง อึนในครั้งนี้นั้น จะนำไปสู่กระบวนการปลดอาวุธนิวเคลียร์และสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลีอย่างถาวร

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความเรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้เท่ากับในปี 2007-2009 ซึ่งเป็นช่วงที่สหรัฐเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ปธน.ทรัมป์ระบุว่า เขาจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ง่ายขึ้น ถ้าหากอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ 0%

"ตัวเลขเศรษฐกิจกำลังดูดีมาก คุณจะจินตนาการได้ไหม ถ้าผมบริหารประเทศขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวอยู่ที่ระดับ 0% เหมือนกับรัฐบาลที่ผ่านมา แทนที่จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนทุกวันนี้ ซึ่งถ้าอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 0% ผมก็จะทำงานได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ดี ตลาดก็ได้ปรับตัวขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 2016" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

-- โฆษกของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า รัฐสภาจะลงมติต่อร่างข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันที่ 15 ม.ค.นี้

โฆษกระบุว่า สมาชิกรัฐสภาจะเริ่มต้นอภิปรายร่างข้อตกลงดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ และจะปิดการปภิปรายในวันที่ 15 ม.ค. ก่อนที่จะมีการลงมติในวันดังกล่าว

นอกจากนี้ โฆษกกล่าวว่า รัฐบาลอังกฤษไม่มีนโยบายในการชะลอเวลาการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (EU) ด้วยการขยายเวลาในการประกาศใช้มาตรา 50 เห่งสนธิสัญญาลิสบอน ถึงแม้แนวคิดดังกล่าวอาจมีการหารือกันในท่ามกลางเจ้าหน้าที่ของ EU

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่มีกำหนดการเปิดเผยวันนี้ โดยเยอรมนีจะเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนพ.ย. อียูเตรียมเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนพ.ย. และสหรัฐเตรียมเปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รวมถึงรายงานการประชุมประจำวันที่ 18-19 ธ.ค.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งจะเปิดเผยออกมาในเช้าวันที่ 10 ม.ค.ตามเวลาไทย

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนธ.ค. ออสเตรเลียเตรียมเปิดเผยความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนธ.ค.จากเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) ขณะที่จีนเตรียมเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค.และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค. ด้านสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ