เหล่านักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะยังคงมีเสถียรภาพในปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลจีนได้ออกนโยบายการคลังและการเงินสนับสนุนเศรษฐกิจ
นายเชิง ซงเฉิน นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ซิเคียวริตีส์ เดลี ว่า "นโยบายต่างๆต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง กว่าที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจจีน" พร้อมกับคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะมีเสถียรภาพหลังช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 และน่าจะเริ่มอุ่นเครื่องในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน ขยายตัว 6.7% เทียบรายปี ในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2561 ซึ่งมากกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ตั้งไว้ที่ประมาณ 6.5%
นายเชิง ยังคาดการณ์ว่า ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 ซึ่งครอบคลุมเงินสดหมุนเวียนและเงินฝากทุกประเภท น่าจะดีดตัวขึ้นในปี 2562 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการยกระดับโครงสร้างการลงทุน เร่งการปฏิรูปและยกระดับภาคอุตสาหกรรม และการเติบโตของการบริโภคในภาคบริการ
ข้อมูลจากแบงก์ชาติจีนระบุว่า ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 ขยายตัว 8% เทียบรายปี แตะ 181.32 ล้านล้านหยวน ณ สิ้นเดือนพ.ย. 2561
อย่างไรก็ดี ปริมาณเงิน M2 ทรงตัวในเดือนต.ค. 2561 และลดลง 1.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ทางด้านด้านนายจู เปาเหลียง นักเศรษฐศาสตร์จากศูนย์สารสนเทศแห่งรัฐของจีน (SIC) เปิดเผยว่า โครงสร้าง คุณภาพ และประสิทธิภาพของเศรษฐกิจจีน ได้ปรากฏให้เห็นความคืบหน้าอยู่บ้าง ขณะที่ความเสี่ยงทางการเงินได้บรรเทาลงไปบ้างแล้ว
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญบางรายเปิดเผยว่า เพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมั่นคง รัฐบาลจีนอาจต้องใช้มาตรการอย่างเช่นการปรับลดภาษีและค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม และขยายเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณ