World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 18 มกราคม 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 18, 2019 09:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังหารือกันเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน โดยมีเป้าหมายที่จะลดความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ปรับตัวลงสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

-- หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังหารือกันเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ซึ่งอาจจะเป็นการยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภทหรืออาจจะยกเลิกทั้งหมด ด้วยเป้าหมายที่จะโน้มน้าวให้จีนยอมทำข้อตกลงการค้าทวิภาคี โดยนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเป็นผู้เสนอแนวทางดังกล่าว แต่นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังสหรัฐได้ออกมาปฏิเสธในเวลาต่อมาว่า นายมนูชิน และไลท์ไฮเซอร์ ไม่ได้แสดงความเห็นใดๆเกี่ยวกับแนวทางการต่อรองเจรจาการค้ากับจีน ตามที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลได้รายงาน

รายงานข่าวของวอลล์สตรีท เจอร์นัลมีขึ้นหลังจากที่ทางการจีนยืนยันว่า นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะเดินทางเยือนสหรัฐในช่วงปลายเดือนนี้ เพื่อเปิดการเจรจากับสหรัฐรอบใหม่

-- นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐที่ล่วงเข้าสู่วันที่ 28 แล้ว ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งสถานการณ์การแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยรายงานล่าสุดระบุว่า ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน รวมทั้งภาคธุรกิจของอังกฤษ ต่างออกมาเรียกร้องให้มีการจัดการลงประชามติ Brexit ครั้งใหม่ โดยจะใช้ชื่อว่า "People's Vote"

-- ซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกประจำทำเนียบขาวของสหรัฐ เปิดเผยว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้มีคำสั่งยกเลิกไม่ให้คณะเจ้าหน้าที่สหรัฐเข้าร่วมการประชุมประจำปีของเวิลด์ อิโคโนมิค ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ในสัปดาห์หน้า โดยให้เหตุผลว่า การสั่งยกเลิกนี้มีขึ้นเพื่อให้ทางคณะทำงานพร้อมช่วยเหลือปธน.ทรัมป์ได้เมื่อเขาต้องการ และยังต้องเห็นแก่ชาวสหรัฐที่ไม่ได้รับค่าจ้างเพราะได้รับผลกระทบจากเหตุชัตดาวน์ด้วย

-- เอกอัครราชทูตจีนประจำแคนาดาได้ออกมาเตือนว่า หากแคนาดากีดกันไม่ให้บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ธุรกิจโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน มีส่วนในโครงการเครือข่ายไร้สายของประเทศแล้ว แคนาดาจะเผชิญกับผลสะท้อนกลับอย่างเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ ยังไม่พบหลักฐานว่าบริษัทหัวเว่ยมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อความมั่นคงของแคนาดาอย่างที่หลายๆฝ่ายกล่าวอ้าง

-- แหล่งข่าวระบุว่า กรุงฮานอยของเวียดนามกำลังเตรียมการต้อนรับการเดินทางเยือนของนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ขณะที่แวดวงนักการทูตระบุว่าเวียดนามมีแนวโน้มได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ระหว่างนายคิมและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ทั้งนี้ แหล่งข่าวระบุว่า นายคิมจะเดินทางเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการหลังวันที่ 4-8 ก.พ. ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน

-- นางแอนเดรีย ลีดซอม ผู้นำในสภาสามัญชนของอังกฤษ กล่าวว่า รัฐสภาอังกฤษจะทำการอภิปราย และลงมติต่อแผนการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ฉบับใหม่ของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ในวันที่ 29 ม.ค.

ทั้งนี้ นางเมย์จะยื่นแผน Brexit ฉบับใหม่ต่อรัฐสภาในวันที่ 21 ม.ค. หลังจากที่รัฐสภาลงมติด้วยคะแนนเสียงถล่มทลาย 432 ต่อ 202 เสียง ปฏิเสธร่างข้อตกลง Brexit ฉบับเดิมของนางเมย์เมื่อวันอังคาร

-- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ออกรายงานประจำเดือนม.ค.ระบุว่า การผลิตน้ำมันของโอเปกลดลง 751,000 บาร์เรล/วันในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 31.6 ล้านบาร์เรล/วัน

-- มอร์แกน สแตนลีย์เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรและรายได้ในไตรมาส 4 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ มอร์แกน สแตยลีย์ระบุว่า ธนาคารมีกำไรที่ระดับ 80 เซนต์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 89 เซนต์/หุ้น ขณะเดียวกัน ธนาคารมีรายได้ 8.55 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.3 พันล้านดอลลาร์

-- นายแรนดอล ควาร์ลส์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐ และตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง ขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับต่ำ แม้ว่าตลาดการเงินมีความวิตกต่อความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง

-- สภากาชาดเคนยาเปิดเผยว่า ยังคงมีผู้สูญหาย 19 ราย หลังกลุ่มติดอาวุธทำการโจมตีโรงแรมดุสิตดีทู กลางกรุงไนโรบีเมื่อวันอังคาร จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 21 ราย

ทั้งนี้ กลุ่มอัล-ชาบับ ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายจากโซมาเลีย ได้อ้างความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์โจมตีในครั้งนี้ โดยทางกลุ่มอ้างว่าได้สังหารประชาชนจำนวน 47 รายภายในโรงแรมดุสิตดีทู ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงแรมในเคนยาที่บมจ.ดุสิตธานีเข้าบริหารงาน

-- นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า จีนสามารถรักษาอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจให้อยู่ในช่วงที่มีความเหมาะสม ด้วยการใช้นวัตกรรม รวมทั้งปรับปรุงการควบคุมทางด้านเศรษฐกิจมหภาพ ถึงแม้จะประสบความยากลำบากมากขึ้นในปีนี้

นายหลี่ระบุว่า จีนได้เรียนรู้ที่จะรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงที่เหมาะสม โดยไม่ต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 213,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 220,000 ราย

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 220,750 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

-- ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะมีการรายงานในวันนี้ สหรัฐเตรียมรายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนธ.ค. เวลา 21.15 น. ตามเวลาไทย และความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เวลา 22.00 น.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ