ทางการจีนออกแถลงการณ์ยืนยันในวันนี้ว่าจะมีการออกมาตรการเพื่อเพิ่มการบริโภคอันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
"การเพิ่มการบริโภคและอุปทานในตลาดกำลังมีบทบาทสำคัญในการรับมือกับแรงกดดันช่วงขาลงต่อเศรษฐกิจ และสนับสนุนการขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ" แถลงการณ์จากคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC), กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานกำกับตลาดแห่งรัฐของจีน ระบุ
"เศรษฐกิจจีนโดยทั่วไปกำลังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลง และมีพัฒนาการที่น่าวิตก ท่ามกลางภาวะแวดล้อมที่รุนแรง และซับซ้อน และความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น" แถลงการณ์ระบุ
ทั้ง 3 หน่วยงานดังกล่าวของจีนได้ประชุมทางไกลในวันนี้ โดยเห็นพ้องที่จะกระตุ้นยอดขายรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน โดยให้การสนับสนุนด้านนโยบายเพื่อรองรับความต้องการของประชาชนในการซื้อรถยนต์และเครื่องใช้ภายในบ้านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ในการประชุมดังกล่าว ทั้ง 3 หน่วยงานยังได้ให้คำมั่นในการรักษาเสถียรภาพของราคาในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งคาดว่าประชาชนจะมีการใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวมีขึ้น ก่อนที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนจะเปิดเผยตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจประจำ Q4/61 และทั้งปี 2561 ในวันจันทร์หน้า เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย
ผลการสำรวจของรอยเตอร์ระบุว่า เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงในปีนี้ ขณะที่อุปสงค์ภายในประเทศอ่อนแอ และการส่งออกได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ
ผลสำรวจพบว่า เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวสู่ระดับ 6.3% ในปีนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 29 ปี และต่ำกว่าระดับ 6.6% ที่คาดไว้สำหรับการขยายตัวในปี 2561 หลังจากที่มีการเติบโต 6.9% ในปี 2560
แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลจีนกำลังเตรียมปรับลดตัวเลขเป้าหมายการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ สู่ระดับ 6.0-6.5% จากระดับ 6.5% ในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะประกาศปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) อีก 1.50% ภายในสิ้นปีนี้ หลังจากที่ได้ปรับลด 1% ในเดือนนี้
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ไม่คาดว่าธนาคารกลางจีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.35%
ขณะเดียวกัน คาดว่าอัตราเงินเฟ้อของจีนจะอยู่ที่ระดับ 2.3% ในปีนี้ โดยลดลงจากระดับ 2.4% ในการสำรวจในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว