World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 22 มกราคม 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 22, 2019 10:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมที่โรงเรียนพรรคคอมมิวนิสต์ประจำคณะกรรมการกลางพรรคฯ (Party School of the CPC Central Committee) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวานนี้ โดยนายสีได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของจีนเพิ่มศักยภาพในการป้องกันและลดความเสี่ยงที่รุนแรง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า การพัฒนาเศรษฐกิจและเสถียรภาพทางสังคมของจีนจะมีความแข็งแกร่งและยั่งยืน

นายสี ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) และประธานคณะกรรมการกลางการทหาร กล่าวว่า "พรรคคอมมิวนิสต์จีนกำลังเผชิญกับอันตรายที่ร้ายแรงของความเฉื่อยชาในจิตวิญญาณ การขาดความรู้ความสามารถ ความห่างไกลจากผู้คน การนิ่งเฉยและการทุจริตคอร์รัปชัน"

-- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกเมื่อวานนี้ โดยเตือนว่าเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ซึ่งรวมถึงการที่อังกฤษอาจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่มีการทำข้อตกลง ขณะที่เศรษฐกิจจีนอาจชะลอตัวลงมากกว่าคาด

ทั้งนี้ IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 3.5% ในปีนี้ และ 3.6% ในปีหน้า โดยต่ำกว่าระดับ 3.7% สำหรับทั้ง 2 ปีที่มีการคาดการณ์ในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งการดำเนินการของ IMF ครั้งล่าสุดนี้ ถือเป็นการปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน

นอกจากนี้ IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว จะมีการขยายตัว 2.0% ในปีนี้ และ 1.7% ในปีหน้า ส่วนกลุ่มประเทศเกิดใหม่ จะมีการขยายตัว 4.5% ในปีนี้ และ 4.9% ในปีหน้า

-- นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ปฏิเสธที่จะประกาศเลื่อนระยะเวลาการถอนตัวของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit ออกไปจากกำหนดเดิม รวมทั้งไม่สนับสนุนให้อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีการทำข้อตกลง ซึ่งจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ

นายกรัฐมนตรีเมย์กำลังเผชิญแรงกดดันจากกลุ่มนักการเมืองข้ามพรรคที่กำลังร่างกฎหมายใหม่ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้นำอังกฤษต้องเรียกร้องให้อียูขยายเส้นตาย Brexit ออกไป เนื่องจากหากยังไม่มีข้อตกลงเกิดขึ้นในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ รัฐสภาจะสามารถดำเนินการจัดการในขั้นตอนต่อไปได้ รวมถึงการบีบให้นางเมย์เรียกร้องให้ขยายเวลาการเจรจาออกไปจากกำหนดเดิมของการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 29 มีนาคม

-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2561 ขยายตัวเพียง 2.7% ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบ 6 ปีหรือนับตั้งแต่ปี 2555 หลังจากการลงทุนในภาคเอกชนซบเซาลง

ทั้งนี้ GDP ปี 2561 ขยายตัวน้อยกว่าปี 2560 ซึ่งมีการขยายตัวแข็งแกร่งถึง 3.1%

ส่วนในไตรมาส 4/2561 นั้น GDP ของเกาหลีใต้ขยายตัว 1% ซึ่งดีกว่าในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ที่ต่างก็ขยายตัวเพียง 0.6%

-- นายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น เข้าพบนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซียในกรุงมอสโก เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทดินแดนเหนือหมู่เกาะ 4 แห่ง ซึ่งญี่ปุ่นเรียกหมู่เกาะดังกล่าวในชื่อว่า "ดินแดนทางตอนเหนือ" ขณะที่รัสเซียเรียกเกาะเหล่านี้ว่า "คูริลใต้" ซึ่งสหภาพโซเวียตบุกเข้ายึดครองช่วงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ส่งผลทำให้ญี่ปุ่นและรัสเซียปฎิเสธการลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพหลังสงคราม ด้านสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายกรัฐมนตรีอาเบะพร้อมที่จะลงนามในข้อตกลงสันติภาพเพื่อแลกกับการที่รัสเซียยินยอมคืนเกาะจำนวน 2 ใน 4 เกาะให้กับญี่ปุ่น

-- เกิดเหตุเพลิงไหม้บนเรือบรรทุกสินค้าติดธงชาติแทนซาเนีย 2 ลำในทะเลดำ นอกช่องแคบเคียร์ชของแคว้นไครเมีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน ท่ามกลางความพยายามของเจ้าหน้าที่กู้ภัยรัสเซียที่เร่งให้การช่วยเหลือลูกเรือที่กระโดดลงน้ำเพื่อหนีตาย เบื้องต้นสามารถช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัยแล้ว 14 คน

เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ในจำนวนเรือที่เกิดเหตุนั้น มีลำหนึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมัน และเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นหลังมีรายงานเหตุระเบิดขณะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันไปยังเรืออีกลำ ส่งผลทำให้เรืออีกลำเกิดไฟไหม้ตามมา โดยเรือบรรทุกสินค้าลำหนึ่งชื่อว่า แคนดี (เวนิส) ประกอบด้วยลูกเรือชาวตุรกีและอินเดีย 17 คน ส่วนอีกลำชื่อว่า แมสโตร มีลูกเรือ 14 คน

-- สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) รายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหว 6 แมกนิจูด ห่างออกไปประมาณ 219 กิโลเมตรทางตอนใต้ของเมืองราบา บนเกาะซุมบาวาของอินโดนีเซีย โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไป 25 กิโลเมตร เบื้องต้นยังไม่มีการประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิหรือรายงานความเสียหายทั้งด้านชีวิตและทรัพย์สิน

-- สำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวของผู้บริโภคฝรั่งเศส ประกาศปรับบริษัทกูเกิล 50 ล้านยูโร (57 ล้านดอลลาร์) เนื่องจากละเมิดกฎคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวของสหภาพยุโรป (EU) จากการขาดความโปร่งใสในการแจ้งผู้ใช้งานเกี่ยวกับการดำเนินการของบริษัทต่อข้อมูลส่วนตัว ถือเป็นวงเงินสูงสุดที่สำนักงานเคยสั่งปรับบริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐ

ทั้งนี้ EU ประกาศใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลทั่วไป (GDPR) ในเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่กฎหมายดังกล่าวถือเป็นการยกเครื่องกฎหมายข้อมูลส่วนตัวครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี โดยกฎหมาย GDPR ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมข้อมูลส่วนตัวได้ดีขึ้น และทำให้เจ้าหน้าที่สามารถเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 4% ของรายได้ทั่วโลกของบริษัทที่กระทำผิดกฎหมาย

-- ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น ระบุว่า บริษัทจะยุติให้บริการสนับสนุนโทรศัพท์มือถือ "วินโดว์ส โฟน" ในปลายปีนี้ หลังจากที่เคยคาดการณ์ว่าว่า วินโดว์ส โฟนจะสามารถตีตลาดซัมซุง, BlackBerry หรือ iPhone ได้ โดยในวันที่ 10 ธ.ค. ทางบริษัทจะยุติการอัพเดทการป้องกันระบบ หรือการสนับสนุนด้านเทคนิคต่อวินโดว์ส โฟน พร้อมแนะนำให้ลูกค้าหันไปใช้อุปกรณ์ซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ หรือ iPhone แทน

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ไมโครซอฟท์ประสบความล้มเหลวในการจำหน่ายวินโดว์ส โฟน เป็นเพราะมีแอปพลิเคชั่นที่น้อยเกินไป เมื่อเทียบกับระบบแอนดรอยด์ หรือ IOS ของ iPhone

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่มีกำหนดรายงานในวันนี้ โดยที่อังกฤษเตรียมเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนพ.ย. ส่วนสถาบัน ZEW จะเปิดเผยความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนม.ค.ของอียูและเยอรมนี ขณะที่สหรัฐเตรียมเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นจะเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนธ.ค. และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย. ดัชนีการผลิตเดือนม.ค.จากเฟดสาขาริชมอนด์ และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ขณะที่อียูจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนม.ค.

-- ตลาดหุ้น ตลาดปริวรรตเงินตรา และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐ ปิดทำการในวันจันทร์ที่ 21 ม.ค. เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ