World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 26, 2019 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 60.14 จุด หรือ 0.23% เมื่อคืนนี้ ขานรับข่าวสหรัฐประกาศเลื่อนเวลาการปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน หลังจากการเจรจาการค้าของทั้งสองฝ่ายมีความคืบหน้า โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่มีการลงทุนจำนวนมากในต่างประเทศ

-- ตลาดการเงินจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้

ทั้งนี้ นายพาวเวลจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้ และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธ

-- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐ เปิดเผยถึงความเป็นไปได้ที่ตนอาจจะได้ลงนามในข้อตกลงการค้าฉบับใหม่กับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน ในขณะที่การหารือของคณะผู้แทนทางการค้าของทั้งสองฝ่ายส่งสัญญาณคืบหน้าในทิศทางบวก เพื่อยุติสงครามการค้าระหว่างสองประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก

ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ ระบุว่า "ดูเหมือนว่าพวกเขาจะกลับมาที่นี่อย่างรวดเร็วอีกครั้ง" โดยอ้างถึงความเป็นไปได้ถึงการกลับมาของผู้แทนจีนหลังจากสัปดาห์แห่งการเจรจาการค้า และ "เรากำลังจะมีการประชุมสุดยอดเพื่อลงนาม ซึ่งจะต้องดียิ่งขึ้นกว่าเดิม" พร้อมเสริมว่า "เราใกล้ชิดกันมากขึ้น" แต่ในขณะเดียวกันก็เตือนว่า อาจไม่มีการทำข้อตกลงเกิดขึ้นเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความระบุว่า สหรัฐจะเลื่อนเวลาการปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน จากเดิมที่มีกำหนดบังคับใช้ในวันที่ 1 มี.ค. หลังจากการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนมีความคืบหน้าในประเด็นสำคัญ ซึ่งรวมถึงประเด็นการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา

-- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐ ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังกรุงฮานอยของเวียดนามแล้ว เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 กับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ พร้อมย้ำถึงโอกาสและสิทธิประโยชน์ที่เกาหลีเหนือจะได้รับหากประธานคิมยินยอมยุติการพัฒนาขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ แต่ระบุว่า ไม่ถือเป็นประเด็นเร่งด่วน

ผู้นำสหรัฐและผู้นำเกาหลีเหนือมีกำหนดพบหารือกันในกรุงฮานอย ระหว่างวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเกิดขึ้นเพียง 8 เดือนหลังจากการประชุมสุดยอดครั้งแรกระหว่างกัน ณ ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2562

ถึงแม้จะไม่มีการคาดการณ์อย่างจริงจังว่าการประชุมสุดยอดสหรัฐ-เกาหลีเหนือครั้งที่ 2 จะสามารถนำมาซึ่งการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือที่คุกคามสหรัฐอเมริกาได้อย่างสมบูรณ์ แต่หลายฝ่ายตั้งความหวังถึงความเป็นไปได้ในการลงนามสนธิสัญญาสันติภาพ เพื่อยุติสงครามเกาหลีระหว่างปี 2493-2496 อย่างเป็นทางการ

-- นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้เดินทางถึงประเทศเวียดนามแล้วในวันนี้ หลังจากที่ใช้เวลาเดินทางด้วยรถไฟเป็นเวลานานถึง 4 วัน โดยนายคิมมีกำหนดเข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ร่วมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ในวันพุธและวันพฤหัสบดีนี้ ที่กรุงฮานอย

สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือรายงานว่า นายคิมได้เดินทางออกจากกรุงเปียงยางด้วยรถไฟเที่ยวพิเศษเมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ โดยมีนางคิม โย จอง น้องสาวของนายคิม และนายคิม ยอง ชอล ผู้ช่วยคนสนิทของนายคิม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงซึ่งเคยเข้าร่วมเจรจากับปธน.ทรัมป์เมื่อเดือนที่แล้ว ร่วมเดินทางมากับนายคิมในครั้งนี้ด้วย

-- นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศเลื่อนวันลงมติในรัฐสภาต่อข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ออกไปเป็นวันที่ 12 มี.ค. จากเดิมที่มีกำหนดในวันที่ 27 ก.พ.

การลงมติในรัฐสภาต่อข้อตกลง Brexit ในวันที่ 12 มี.ค. จะมีขึ้นเพียง 17 วัน ก่อนที่อังกฤษมีกำหนดแยกตัวจากสหภาพยุโรป (EU) อย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มี.ค.

โฆษกของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า รัฐบาลอังกฤษจะทำการเผยแพร่บทวิเคราะห์ผลกระทบที่มีต่อภาคธุรกิจและการค้า ในกรณีที่อังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีการทำข้อตกลง ซึ่งการดำเนินการของรัฐบาลดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่นางแอนนา ซูบรี สมาชิกรัฐสภาอังกฤษ ซึ่งเป็นฝ่ายสนับสนุนให้อังกฤษยังคงอยู่กับสหภาพยุโรปต่อไป ได้เรียกร้องให้รัฐบาลออกรายงานฉบับดังกล่าว

-- นางคริสเตีย ฟรีแลนด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของแคนาดาเปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างการหารือกับชาติพันธมิตร เกี่ยวกับการขยายมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัฐบาลนายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีของเวเนซุเอลาที่กำลังเผชิญกับแรงกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง

นอกจากนี้ยังระบุว่า "เราดำเนินการระบุชื่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลประธานาธิบดีมาดูโรลงในรายการคว่ำบาตร และเรากำลังหารือกับพันธมิตรว่าจะสามารถเพิ่มเติมรายการคว่ำบาตรเพื่อที่จะสามารถยกระดับการลงโทษให้รุนแรงขึ้นได้หรือไม่"

-- สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เปิดเผยว่า หน้าเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของตนถูกแฮกเกอร์โจมตี และลบโพสต์ข้อความจำนวนมากออกจากเฟซบุ๊กดังกล่าว

"แฮกเกอร์กลุ่มหนึ่งได้เจาะเข้ามาในหน้าเฟซบุ๊กของผม และได้ลบข้อมูลจำนวนมาก" สมเด็จฮุน เซนระบุ และเสริมว่า "ขณะนี้ บริษัทเฟซบุ๊กกำลังสอบสวนผู้ที่ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งมีเจตนาร้ายในการทำลายข้อมูลในสังคมของเรา"
นอกจากการลบข้อมูลแล้ว แฮกเกอร์ยังได้โพสต์ข่าวลวงที่อ้างว่าสมเด็จฮุน เซนจะสั่งปิดเฟซบุ๊กในกัมพูชา หากเฟซบุ๊กปิดบัญชีของสมเด็จฮุน เซน

ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่เฟซบุ๊กของสมเด็จฮุน เซนเผชิญกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ หลังจากที่แฮกเกอร์ได้ทำการโจมตีครั้งแรกในเดือนส.ค.ปีที่แล้ว

-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งพุ่งขึ้น 1.1% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2556 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย. โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ในเดือนธ.ค.

เมื่อเทียบรายปี สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งดีดตัวขึ้น 7.3% ในเดือนธ.ค.

ขณะเดียวกัน ยอดขายในภาคค้าส่งลดลง 1.0% ในเดือนธ.ค. หลังจากดิ่งลง 1.2% ในเดือนพ.ย. ยอดขายดังกล่าวบ่งชี้ว่า ผู้ค้าส่งจะใช้เวลา 1.33 เดือนในการจำหน่ายสินค้าทั้งหมดในสต็อก ซึ่งเป็นเวลานานที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2559 และเพิ่มขึ้นจากระดับ 1.30 เดือนในเดือนพ.ย.

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ เกาหลีใต้จะเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ. เยอรมนีจะเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมี.ค.จาก GfK ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ. ส่วนสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค. ราคาบ้านเดือนธ.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จาก Conference Board

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.พ. จีนจะเปิดเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค. อียูเปิดเผยความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.พ. และ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ. ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค. ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนม.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ