สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ในปี 2561 ทางสำนักงานได้รับรายงานว่ามีคดีที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและเชื่อมโยงกับสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 7,000 คดี
สำนักงานตำรวจระบุว่า สาเหตุที่คดีฟอกเงินจากเงินดิจิทัลพุ่งขึ้นกว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับในช่วงเดือนเม.ย.-ธ.ค. ซึ่งพบเพียง 669 คดีนั้น สืบเนื่องมาจากมีการกำหนดให้ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลต้องรายงานการทำธุรกิจที่สงสัยว่าจะเป็นความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรม
ทั้งนี้ ตำรวจยืนยันว่าพบคดีที่ใช้เงินดิจิทัลในการจ่ายค่ายาเสพติดและสื่ออนาจารเด็กเกิดขึ้น เนื่องจากเงินดิจิทัลสามารถดำเนินการทำธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและไม่จำเป็นต้องระบุชื่อผู้ทำธุรกรรม
ตำรวจระบุว่า ในบรรดาคดีความที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจต้องสงสัยทั้งหมด 7,096 คดี พบว่า มีบางคดีที่ผู้ทำธุรกรรมใช้ชื่อหรือวันเกิดที่แตกต่างกันในขณะที่มีรูปถ่ายยืนยันตัวตนรูปเดียวกัน และบางคดีที่พบว่าผู้ทำธุรกรรมล็อคอินเข้าบัญชีของตนเองจากต่างประเทศแม้ว่าตัวตนจะอยู่ที่ญี่ปุ่น