สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงเล็กน้อยในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 เม.ย.
ข้อมูลของ EIA ระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 12.1 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งลดลง 100,000 บาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นราว 1.6 ล้านบาร์เรล/วัน เมื่อเทียบเป็นรายปี
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในรายงาน "Short-term Energy Outlook" นั้น EIA ประเมินว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในเดือนมี.ค.โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 12.1 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล/วัน จากระดับเฉลี่ยในเดือนก.พ.
EIA คาดการณ์ด้วยว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 12.4 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2562 และ 13.1 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2563 โดยการผลิตที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากจากภูมิภาคเพอร์เมียนของรัฐเทกซัส และ นิว เม็กซิโก
EIA ระบุว่า ราคาสปอตของน้ำมันดิบเบรนท์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 66 ดอลลาร์/บาร์เรลในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 2 ดอลลาร์/บาร์เรลจากเดือนก.พ. และราคาน้ำมันดิบเบรนท์เฉลี่ยในไตรมาสแรกของปีนี้ อยู่ที่ 63 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 4 ดอลลาร์จากช่วงเดียวกันของปี 2561
ส่วนราคาสปอตของน้ำมันดิบเบรนท์จะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 65 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2562 และ 62 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2563 เมื่อเทียบกับระดับเฉลี่ยที่ 71 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2561
นอกจากนี้ EIA ยังเปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบ WTI จะอยู่ต่ำกว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์โดยเฉลี่ย 8 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงครึ่งปีแรก ก่อนส่วนต่างดังกล่าวจะลดลงเหลือ 4 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงปลายปีนี้ และตลอดปี 2563