ผลสำรวจเผยบริษัทสหรัฐมองนโยบายเก็บภาษีสินค้านำเข้าส่งผลลบต่อธุรกิจ

ผลการสำรวจซึ่งจัดทำโดยสมาคมเศรษฐกิจธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NABE) เมื่อวันที่ 1-10 เม.ย. ที่ผ่านมา พบว่า การที่รัฐบาลสหรัฐใช้นโยบายเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้านั้น ส่งผลลบต่อธุรกิจของบริษัทอเมริกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการผลิตสินค้า

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผู้ตอบแบบสำรวจ 75% ในภาคการผลิตสินค้า ซึ่งรวมภาคการเกษตร ป่าไม้ ประมง เหมืองแร่ การก่อสร้าง และการผลิต เปิดเผยว่า บริษัทของตนได้รับผลเสียจากการเก็บภาษีสินค้านำเข้า

ในกลุ่มผู้ตอบแบบสำรวจในภาคการผลิตสินค้านั้น ผู้ตอบแบบสำรวจ 67% เปิดเผยว่า บริษัทมีต้นทุนเพิ่มขึ้น ขณะที่ 50% เผยว่าต้องปรับขึ้นราคาขาย และ 42% พบว่า ยอดขายได้รับผลกระทบด้านลบ

นายเควิน สวิฟต์ ประธาน NABE เปิดเผยในแถลงการณ์ว่า "1 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ที่สหรัฐได้ประเดิมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของประเทศคู่ค้าเมื่อปี 2561 นโยบายเรียกเก็บภาษีนำเข้านี้ได้ส่งผลกระทบด้านลบต่อธุรกิจของบริษัทผู้ตอบแบบสำรวจกว่า 1 ใน 4"

แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า "ผลกระทบจากการเก็บภาษีนำเข้าที่มีต่อบริษัทอเมริกันนั้นไม่ได้อยู่ในทางที่ดี และยิ่งเป็นผลลบเป็นพิเศษในภาคการผลิตสินค้า" โดยบริษัทเหล่านี้ได้เริ่มเปลี่ยนแปลงในเรื่องการจัดหาแหล่งผลิต ห่วงโซ่อุปทาน และช่องทางอื่น ๆ เพื่อรองรับกับความกังวลทางการค้า