World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 22 พฤษภาคม 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 22, 2019 09:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ ขานรับรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลสหรัฐได้ยกเลิกคำสั่งห้ามบริษัทสหรัฐดำเนินธุรกิจกับบริษัทหัวเว่ยเป็นการชั่วคราว โดยข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และยังเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มผู้ผลิตชิพ ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทที่เป็นซัพพลายเออร์ของหัวเว่ย

-- บริษัทกูเกิล อิงค์แถลงเมื่อวานนี้ว่า ทางบริษัทจะยังคงดำเนินธุรกิจกับบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ในช่วง 90 วันข้างหน้า หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐยกเลิกคำสั่งห้ามบริษัทสหรัฐดำเนินธุรกิจกับบริษัทหัวเว่ยเป็นการชั่วคราว

การดำเนินการล่าสุดของกูเกิลถือเป็นการกลับการตัดสินใจก่อนหน้านี้ โดยกูเกิลได้ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า ทางบริษัทจะยุติการดำเนินธุรกิจกับหัวเว่ยเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งได้ห้ามบริษัทสหรัฐดำเนินธุรกิจกับบริษัทหัวเว่ย ขณะที่หัวเว่ยถูกขึ้นบัญชีดำใน Entity List

-- เจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซียได้ยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ชุมนุมในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกมาประท้วงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น ไม่ยอมสลายตัว

ผู้ประท้วงซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สนับสนุนนายปราโบโว สุเบียนโต คู่แข่งของประธานาธิบดีโจโก "โจโกวี" วิโดโด ได้รวมตัวกันที่หน้าอาคารสำนักงานตรวจสอบการเลือกตั้ง หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งทั่วไป ประกาศชัยชนะของปธน.โจโกวีในการเลือกตั้งประธานาธิบดี

หลังการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งระบุว่า นายโจโกวีได้คะแนนเสียงราว 55% และนายปราโบโวได้คะแนน 45% นั้น นายปราโบโวได้ปฏิเสธผลการเลือกตั้งดังกล่าว และทำให้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นที่ผู้สนับสนุนนายปราโบโว จะทำการต่อต้านอย่างต่อเนื่อง

-- สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยรายงานล่าสุดระบุว่า กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนได้ใช้โดรนก่อเหตุโจมตีคลังสรรพาวุธที่สนามบินนัจญ์รอนของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งทำให้เกิดเพลิงไหม้และสร้างความเสียหายต่ออาคารซึ่งเป็นที่ตั้งของคลังสรรพาวุธ

ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวเตือนว่า อิหร่านจะถูกตอบโต้อย่างรุนแรง หากโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐในตะวันออกกลาง โดยถ้อยแถลงของทรัมป์มีขึ้นหลังแหล่งข่าวระบุว่า กลุ่มติดอาวุธของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ได้ทำการยิงจรวดโจมตีย่าน Green Zone ในกรุงแบกแดดเมื่อวันอาทิตย์

-- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนเม.ย.ร่วงลง 2.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 6.4% ส่งผลให้ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าในเดือนเม.ย.ที่ระดับ 6.04 หมื่นล้านเยน

-- เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นและสหรัฐยังคงมีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับการปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์ และผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร อันเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้าทวิภาคี

เจ้าหน้าที่จากสหรัฐและญี่ปุ่นได้หารือกัน เพื่อวางกรอบการทำงานสำหรับการประชุมซัมมิตระหว่างนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ที่กรุงโตเกียวในวันจันทร์หน้า

สำหรับวาระในการประชุมซัมมิตนั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นเรื่องการค้าทวิภาคี และนโยบายเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ โดยปธน.ทรัมป์จะเดินทางเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 4 วันโดยเริ่มตั้งแต่วันเสาร์นี้

-- นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยื่นข้อเสนอให้สมาชิกรัฐสภาสามารถลงคะแนนเสียงโดยเสรีต่อกรณีการทำประชามติเป็นครั้งที่ 2 ว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หากรัฐสภาให้การอนุมัติข้อตกลง Brexit ของนางเมย์

ทั้งนี้ การที่สมาชิกรัฐสภาสามารถลงคะแนนเสียงโดยเสรี บ่งชี้ว่าสมาชิกสามารถโหวตโดยไม่ถูกกำหนดตามมติพรรค ซึ่งจะเพิ่มความเป็นไปได้ที่อังกฤษจะมีการจัดทำประชามติครั้งใหม่เกี่ยวกับ Brexit เนื่องจากสมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่มีความเห็นสนับสนุนให้อังกฤษรวมตัวกับสหภาพยุโรป (EU) ต่อไป

-- องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ และปีหน้า สู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 30 ปี โดยได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ทั้งนี้ OECD ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ และปีหน้า สู่ระดับ 3.2% และ 3.4% ตามลำดับ จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนพ.ย.ปีที่แล้วที่ระดับ 3.5% สำหรับทั้งสองปี หลังจากมีการขยายตัว 3.5% ในปีที่แล้ว

-- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 0.4% สู่ระดับ 5.19 ล้านยูนิตในเดือนเม.ย. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่ายอดขายจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 5.35 ล้านยูนิต จากระดับ 5.21 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค.

ยอดขายบ้านไม่ได้รับแรงหนุนจากการร่วงลงของอัตราดอกเบี้ยจำนอง ขณะที่ถูกกระทบจากราคาบ้านที่พุ่งขึ้น

เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านมือสองลดลง 4.4% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 14

-- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ โดยอังกฤษจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย. ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 30 เม.ย. -1 พ.ค.

ส่วนในวันพรุ่งนี้ จะมีการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือนพ.ค.ของเยอรมนี, ฝรั่งเศส, อียู และสหรัฐโดยมาร์กิต ขณะที่เยอรมนีเตรียมเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2562 และดัชนีภาวะธุรกิจเดือนพ.ค.จากสถาบัน Ifo ด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ