World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 30 พฤษภาคม 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 30, 2019 09:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 221.36 จุด หรือ หรือ 0.87% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากมีรายงานว่าจีนอาจใช้แร่หายากเป็นอาวุธในการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ โดยความกังวลดังกล่าวได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

-- ตลาดการเงินทั่วโลกต่างพากันวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่เริ่มส่งสัญญาณถดถอย หลังจากตลาดพันธบัตรสหรัฐได้เกิดภาวะ inverted yield curve ซึ่งเป็นภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าพันธบัตรระยะยาว และเป็นการส่งสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ในการซื้อขายที่ตลาดพันธบัตรสหรัฐเมื่อคืนนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.227% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.665% เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่จะได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน

อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 3 เดือนอยู่ที่ระดับ 2.36% ซึ่งสูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี และทำให้เกิดภาวะ inverted yield curve ซึ่งเป็นภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าพันธบัตรระยะยาว และเป็นการส่งสัญญาณถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย

-- หนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ออกมาเตือนสหรัฐว่า จีนอาจใช้แร่หายากเป็นอาวุธในการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ

"เราขอแนะนำสหรัฐมิให้ประเมินความสามารถของจีนต่ำเกินไปในการปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของจีน อย่าบอกว่าเราไม่ได้เตือนคุณก่อน" พีเพิลส์ เดลี ระบุในบทบรรณาธิการที่มีหัวข้อว่า "สหรัฐ อย่าประเมินความสามารถของจีนในการตอบโต้ต่ำเกินไป"

ทั้งนี้ พีเพิลส์ เดลีเคยใช้ประโยคที่ว่า "อย่าบอกว่าเราไม่ได้เตือนคุณก่อน" เพียง 2 ครั้งในอดีต โดยครั้งแรกในปี 2506 ก่อนที่จีนจะทำสงครามชายแดนกับอินเดีย และครั้งที่ 2 ในปี 2530 ก่อนที่จีนจะทำสงครามกับเวียดนาม

-- ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งภายในเดือนม.ค.ปีหน้า ขณะที่เศรษฐกิจส่งสัญญาณอ่อนแอ และตลาดหุ้นทรุดตัวลง

ทั้งนี้ จากการใช้เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 63% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. และมีโอกาส 62% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนม.ค.ปีหน้า ขณะที่ตลาดการเงินคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะอยู่ที่ระดับ 2.1% ภายในปลายปีนี้ เทียบกับปัจจุบันที่ระดับ 2.25-2.50%

-- นายโรเบิร์ต มุลเลอร์ อัยการพิเศษที่รับผิดชอบคดีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า การสอบสวนของตนยังไม่ได้มีการชี้ชัดว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ มีความผิดฐานขัดขวางกระบวนการยุติธรรมหรือไม่

นายมุลเลอร์กล่าวต่อสื่อมวลชนที่กระทรวงยุติธรรมว่า "หากเรามั่นใจว่าปธน.ทรัมป์ไม่ได้ทำความผิดจริง เราก็คงแจ้งให้ทราบไปแล้ว อย่างไรก็ดี เรายังไม่ได้ตัดสินชี้ชัดว่าปธน.ทรัมป์ได้กระทำความผิดหรือไม่"

ขณะที่ ปธน.ทรัมป์ ที่ก่อนหน้านี้เคยออกมาวิจารณ์การสอบสวนของนายมุลเลอร์ว่าเป็นการ "ล่าแม่มด" และ "เรื่องหลอกลวง" พร้อมยืนยันว่าตนไม่เคย "สมรู้ร่วมคิด" กับรัสเซียนั้น ได้ออกมาประกาศเมื่อวานนี้ว่า "คดีดังกล่าวได้ปิดลงแล้ว"

-- รัฐสภาอิสราเอล หรือ Knesset อนุมัติกฏหมายเพื่อประกาศยุบสภาเมื่อคืนนี้ ภายในเวลาไม่ถึง 2 เดือน หลังจากมีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีการจัดเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 17 ก.ย. 2562

สมาชิกรัฐสภาอิสราเอลลงมติด้วยคะแนนเสียง 74 ต่อ 45 เสียง ให้ผ่านกฏหมายยุบสภาดังกล่าว หลังนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ภายใน 42 วัน ซึ่งนับจนถึงเที่ยงคืนวันพุธที่ 29 พ.ค.

-- ธนาคารกลางแคนาดาประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.75% เมื่อวานนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้นในไตรมาส 2 หลังจากชะลอตัวตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

ธนาคารกลางระบุว่า อุตสาหกรรมน้ำมันได้เริ่มฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ภาคที่อยู่อาศัยมีเสถียรภาพ และการจ้างงานมีความแข็งแกร่ง แต่เศรษฐกิจยังคงเผชิญความเสี่ยงทางการค้า

-- นายแอนตัน ซิลูอานอฟ รองนายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่งของรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะพิจารณาขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน

เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และกลุ่มประเทศนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงเดือนมิ.ย.ปีนี้ เพื่อป้องกันการทรุดตัวของราคาน้ำมัน

ทั้งนี้ โอเปกจะจัดการประชุมที่กรุงเวียนนาในวันที่ 25-26 มิ.ย.เพื่อพิจารณานโยบายการผลิตน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลัง โดยมีแนวโน้มขยายเวลาการปรับลดการผลิตออกไปจนถึงสิ้นปีนี้

อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวระบุว่า การประชุมดังกล่าวอาจถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 3-4 ก.ค.

-- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่มีกำหนดการเปิดเผยวันนี้ โดยสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2562 (ประมาณการครั้งที่ 2) ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนเม.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เตรียมเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย., ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย. และจัดประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางเกาหลีใต้ ญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนเม.ย., ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค. ด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เตรียมเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนพ.ค. ขณะที่เยอรมนีเตรียมเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.และอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค. อังกฤษเตรียมเปิดเผยราคาบ้านเดือนพ.ค.จากเนชั่นไวด์ และสหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเม.ย., การใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนเม.ย. รวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ