ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ 11.40 จุด หรือ 0.04% เมื่อคืนนี้ โดยได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพ และตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐที่อ่อนแรงลงในเดือนพ.ค. อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงไม่มากนัก ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก เนื่องจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มพลังงานเป็นปัจจัยหนุนตลาดในระหว่างวัน
-- ตลาดการเงินจับตาการการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุม G20 ในช่วงสุดสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด ท่ามกลางความหวังที่ว่าผู้นำสหรัฐและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้า หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐและจีนใกล้บรรลุข้อตกลงการค้าแล้ว พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่า ปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง จะสามารถสร้างความคืบหน้าในการเจรจาการค้าในการประชุมครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อสหรัฐว่า ตนอาจเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มเติม หากตนและปธน.สี จิ้นผิงของจีน ไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาการค้าในการประชุม G20 ที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงสุดสัปดาห์นี้
-- เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยในนครโอซากาในช่วงก่อนการประชุมสุดยอด G20 ในสัปดาห์นี้ โดยมีการห้ามการใช้ถังขยะ และตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญตามสถานีรถไฟต่างๆ รวมทั้งมีการปิดถนนหลายสาย เพื่อป้องกันการก่อการร้ายที่อาจเกิดขึ้น
ผู้นำประเทศของกลุ่ม G20 มีกำหนดประชุมกันที่นครโอซากาในวันที่ 28-29 มิ.ย.เพื่อหารือประเด็นต่างๆในระดับโลก โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ จะหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เกี่ยวกับการผ่อนคลายความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศทั้งสอง
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย จะเข้าร่วมการประชุม G20 เช่นกัน ในฐานะประธานอาเซียน โดยจะมีการรับรองร่างแถลงการณ์ผู้นำ G20 และร่างแถลงการณ์โอซากาว่าด้วยเศรษฐกิจดิจิทัล
-- อิหร่านปฏิเสธไม่ยอมเจรจากับสหรัฐหลังจากที่มีการสั่งคว่ำบาตรระลอกใหม่ โดยนายโมฮัมหมัด จาวาด ซาริฟ รมว.ต่างประเทศอิหร่านกล่าวว่า การที่สหรัฐวางแผนที่จะสั่งคว่ำบาตรตัวเขาเองนั้นชี้ให้เห็นว่า สหรัฐไม่ได้มีความจริงใจที่จะเปิดการเจรจาอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ อิหร่านยังเตรียมที่จะละเมิดข้อกำหนดของข้อตกลงนิวเคลียร์ในปี 2558 ในวันนี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ที่อิหร่านมีต่อยุโรป
-- กลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคนออกมาชุมนุมกันในฮ่องกงก่อนการประชุม G20 จะเปิดฉากขึ้น โดยได้ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยและกดดันให้รัฐบาลยกเลิกร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ขณะที่ผู้ประท้วงบางส่วนได้ทำการปิดล้อมสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นครั้งที่สองในสัปดาห์นี้
-- เมย์แบงก์ กิมเอ็ง รีเสิร์ช เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของสิงคโปร์อาจจะเผชิญกับภาวะถดถอยทางเทคนิคที่ไม่รุนแรงในไตรมาส 3/2562 เนื่องจากแนวโน้มการค้าโลกย่ำแย่ลง
นักเศรษฐศาสตร์ของเมย์แบงก์ระบุว่า ธนาคารได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์ในปีนี้ลงสู่ 1.3% จาก 1.6% อันเนื่องมาจากแนวโน้มการเกิดภาวะถดถอยในไตรมาส 3 ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของรัฐบาลสิงคโปร์ที่ 1.5%-2.5%
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมของจีนในช่วงเดือนม.ค.-พ.ค. ปรับตัวลง 2.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี
-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า กลุ่มผู้ผลิตของเกาหลีใต้ยังคงมีมุมองเป็นลบต่อแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในอนาคต เนื่องจากยอดส่งออกของเกาหลีใต้ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากข้อพิพาทการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (BSI) ของกลุ่มผู้ผลิตภายในประเทศ อยู่ที่ระดับ 75 ในเดือนก.ค. ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของเดือนมิ.ย.
-- สื่อรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 ราย หลังเกิดเหตุระเบิดใจกลางกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียในวันนี้
เหตุระเบิดดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นราวเวลา 16.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้อาคาร 2 แห่งพังทลายลง
ตำรวจสันนิษฐานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากแก๊สระเบิด และส่งผลให้มีการอพยพประชาชนออกจากอาคารที่ได้รับความเสียหาย
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้สหรัฐสามารถแข่งขันกับประเทศอื่น ซึ่งกำลังลดค่าเงิน
"เฟดควรจะต้องลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อให้เราแข่งขันกับจีนได้ ขณะที่ประเทศอื่นกำลังกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งถ้าพวกเขาลดค่าเงิน และเราไม่ได้ทำ เราก็ไม่ได้อยู่ในสนามแข่งขันที่เท่าเทียมกัน" ปธน.ทรัมป์กล่าวในการให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวฟ็อกซ์
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 1.3% ในเดือนพ.ค. หลังจากร่วงลง 2.8% ในเดือนเม.ย.
การลดลงของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนพ.ค. ได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของคำสั่งซื้อในกลุ่มขนส่ง
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ โดยอียูเตรียมเปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย. และสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ กำไรภาคธุรกิจไตรมาส 1/2562 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2562 รวมถึงยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพ.ค.
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราว่างงานเดือนพ.ค. ขณะที่อังกฤษเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2562 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ค., การใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน