World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 3 กรกฎาคม 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 3, 2019 09:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงในช่วงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของข้อพิพาทการค้าอีกครั้ง หลังจากสหรัฐได้หันมาเปิดศึกการค้ากับสหภาพยุโรป (EU) ด้วยการขู่ว่าจะปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจาก EU วงเงิน 4 พันล้านดอลลาร์ แม้ว่าสหรัฐเพิ่งเจรจาสงบศึกการค้ากับจีนเมื่อเร็วๆนี้ก็ตาม

สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้เสนอให้มีการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจาก EU จำนวน 89 รายการ คิดเป็นมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งรายการสินค้าดังกล่าวครอบคลุมถึง ชีส นม กาแฟ วิสกี้ ผลิตภัณฑ์เนื้อหมู และผลิตภัณฑ์โลหะบางชนิด เช่นทองแดง โดย USTR จะจัดทำประชาพิจารณ์ในเดือนหน้าเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวต่อ EU

ทั้งนี้ การที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีดังกล่าวต่อ EU หรือไม่นั้น จะขึ้นอยู่กับผลการตัดสินขององค์การการค้าโลก (WTO) กรณีที่ EU ให้เงินอุดหนุนการผลิตเครื่องบิน โดยเฉพาะต่อบริษัทแอร์บัส

-- ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงอย่างหนักถึง 4.8% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากจากความกังวลที่ว่า เศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลงอันเนื่องมาจากการชะลอตัวของภาคการผลิตนั้น จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน โดยความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานข่าวที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตร ได้บรรลุข้อตกลงขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือน

-- คณะมนตรียุโรปประกาศแต่งตั้งอย่างเป็นทางการให้นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เข้าดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) แทนนายมาริโอ ดรากี ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปีในเดือนต.ค.

อย่างไรก็ดี การแต่งตั้งนางลาการ์ดเข้าดำรงตำแหน่งดังกล่าว จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภายุโรป

ทางด้านนางลาการ์ดออกแถลงการณ์ระบุว่า ตนจะสละตำแหน่งผู้อำนวยการ IMF เป็นการชั่วคราว ระหว่างที่อยู่ในกระบวนการแต่งตั้งเป็นประธาน ECB

-- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมิ.ย.ของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน ปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน เนื่องจากการชะลอตัวของยอดส่งออกได้บดบังความแข็งแกร่งของธุรกิจใหม่ๆภายในประเทศที่ได้รับปัจจัยหนุนจากนโยบายของรัฐบาลและบรรยากาศในตลาดที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น

ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมิ.ย.อยู่ที่ระดับ 52 ลดลงจากระดับ 52.7 ในเดือนพ.ค. โดยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมิ.ย.อยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีนี้

-- นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า เฟดยังไม่ควรปรับลดอัตราดอกเบี้ย จนกว่าจะมีข้อมูลมากขึ้นที่แสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังปรับตัวอ่อนแออย่างแท้จริง

นางเมสเตอร์ยังระบุว่า "หากมีการเปิดเผยรายงานการจ้างงานที่อ่อนแอต่อไปอีก รวมทั้งมีการลดลงของตัวเลขภาคการผลิต การใช้จ่ายของภาคธุรกิจ และการคาดการณ์เงินเฟ้อ สิ่งนี้ก็จะทำให้มีเหตุผลหนักแน่นมากขึ้นที่แสดงว่า สหรัฐกำลังมีการขยายตัวที่อ่อนแอ ซึ่งสมควรได้รับการกระตุ้นเศรษฐกิจ"

-- นายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานคณะมนตรียุโรป ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ ระบุว่า ผู้นำ 28 ชาติของสหภาพยุโรป (EU) ได้แต่งตั้งให้นายชาร์ลส์ มิเชล นายกรัฐมนตรีเบลเยียม เป็นประธานคณะมนตรียุโรปคนต่อไป รวมทั้งแต่งตั้งนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เข้าดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) แทนนายมาริโอ ดรากี

นอกจากนี้ ที่ประชุมสุดยอด EU ยังได้แต่งตั้งให้นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน รัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนี เป็นประธานคณะกรรมาธิการยุโรป

อย่างไรก็ดี การแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยุโรปดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภายุโรป ซึ่งหากรัฐสภาให้การรับรองนางเลเยนเป็นประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ก็จะถือเป็นสตรีคนแรกที่เป็นผู้นำองค์กรดังกล่าว

-- นายปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษานโยบายการค้าประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า การเจรจาการค้ากับจีนกำลังไปถูกทาง แต่ต้องใช้เวลา ก่อนที่จะมีการบรรลุข้อตกลง

"เรากำลังไปถูกทางแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ซับซ้อน และเป็นไปอย่างที่ท่านประธานาธิบดีกล่าวไว้ว่าจะต้องใช้เวลา และเราต้องการทำให้มันถูกต้อง" นายนาวาร์โรกล่าว

-- ไอเอชเอส มาร์กิต/ซีไอพีเอส เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการก่อสร้างของสหราชอาณาจักร ดิ่งลงสู่ระดับ 43.1 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2552 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ดัชนี PMI อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคการก่อสร้างของสหราชอาณาจักรประสบภาวะหดตัว โดยได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของการแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

-- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในยูโรโซน ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าหน้าโรงงาน ลดลง 0.1% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยถูกกระทบจากราคาพลังงานที่อ่อนตัวลง

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI ร่วงลง 1.6% ในเดือนพ.ค.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PPI จะปรับตัวลงเมื่อเทียบรายเดือน และดีดตัวขึ้น 1.7% เมื่อเทียบรายปี

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่มีกำหนดการเปิดเผยวันนี้ โดยมาร์กิตจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของเดือนมิ.ย.ของฝรั่งเศส, เยอรมนี, อียู, สหรัฐ และอังกฤษ ขณะที่สหรัฐเตรียมเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมิ.ย.จาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนพ.ค., ดัชนีภาคบริการเดือนมิ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), คำสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนพ.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ออสเตรเลีย และอียู จะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ