Spotlight: สมาชิกสภาสหรัฐหนุน"เจอโรม พาวเวล"นั่งเก้าอี้เฟดต่อไป แม้เผชิญแรงกดดันจากทำเนียบขาว

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 12, 2019 15:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาชิกรัฐสภาสหรัฐจากทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตได้แสดงจุดยืนในการสนับสนุนต่อนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงเวลาที่พาวเวลกำลังเผชิญกับแรงกดดันทางการเมืองจากทำเนียบขาว

ในระหว่างที่นายพาวเวลแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อวานนี้นั้น นายบ็อบ เมเนนเดซ วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตจากรัฐนิวเจอร์ซีย์ ได้กล่าวยกย่องความพยายามของนายพาวเวลในการทำให้เฟดเป็นอิสระจากการแทรกแซงทางการเมือง

"ผมคิดว่า ผมพูดให้กับเพื่อนร่วมงานของผมทุกคน เมื่อผมพูดว่า เราชื่นชมความพยายามของท่านพาวเวลที่จะทำให้เฟดเป็นสถาบันอิสระ ไม่ใช่สถาบันการเมือง" นายเมเนนเดซกล่าว

นายริชาร์ด เชลบี วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันจากรัฐแอละบามากล่าวกับนายพาวเวลว่า "ขอบคุณสำหรับการทำงานของคุณที่ทำให้เฟดเป็นอิสระจากสองพรรคการเมือง"

ในส่วนของนายพาวเวลเองนั้น เขาได้ตอบอย่างระมัดระวังกับคำถามที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้โจมตีเขาหรือไม่ และ เฟดภายใต้การนำของเขานั้น เป็นที่มาของความไม่แน่นอนสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐหรือไม่

"ปธน.ทรัมป์ได้ขู่หลายครั้งที่จะไล่คุณออก หรือลดตำแหน่งของคุณ ซึ่งเห็นได้ชัดว่า เป็นความพยายามที่จะข่มขู่คุณให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง" นายเมเนนเดซกล่าว

"ในรายงานนโยบายการเงินของคุณที่คุณพูดถึงความไม่แน่นอนที่ถ่วงรั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจนั้น มันยุติธรรมหรือไม่ที่จะพูดว่า ความเห็นของประธานาธิบดีทรัมป์เกี่ยวกับคุณ และการตัดสินใจนโยบายการเงินของเฟดนั้น มีส่วนทำให้เกิดความไม่แน่นอนเหล่านี้"

นายพาวเวลตอบว่า "ผมลังเลที่จะพูดถึงเรื่องนั้น ผมคิดว่าเราหมายถึงความไม่แน่นอนจริงๆ เกี่ยวกับการค้าและการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกตามที่เราระบุไว้ในรายงานนโยบายการเงิน"

ปธน.ทรัมป์ได้วิพากษ์วิจารณ์นายพาวเวลและเฟดอย่างต่อเนื่องที่ยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับสูง ซึ่งปธน.ทรัมป์ระบุว่า เป็นการขัดขวางความพยายามของคณะทำงานของรัฐบาลในการผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยปธน.ทรัมป์กล่าวในเดือนที่ผ่านมาว่า เขาไม่ได้แนะนำให้ปรับลดตำแหน่งนายพาวเวล แต่เขาก็สามารถทำเช่นนั้น หากเขาต้องการ

ด้านนางแม็กซีน วอเตอร์ส สมาชิกรัฐสภาจากพรรคเดโมแครต และประธานคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรได้ซักถามนายพาวเวลเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า เขาจะทำอย่างไร หากปธน.ทรัมป์บังคับให้เขาลาออกจากตำแหน่ง

ระหว่างที่นายพาวเวลแถลงต่อคณะกรรมาธิการสภาฯนั้น นางวอเตอร์สถามว่า "ท่านประธานพาวเวล หากคุณได้รับโทรศัพท์จากประธานาธิบดีทรัมป์ในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ และปธน.ทรัมป์พูดว่า ผมไล่คุณออก เก็บของไปได้เลย ถึงเวลาต้องไปแล้ว คุณจะทำอย่างไร?"

"แน่นอน ผมจะไม่ทำเช่นนั้น" นายพาวเวลตอบ

"ผมได้พูดในสิ่งที่ผมตั้งใจจะพูดในเรื่องนี้" นายพาวเวลกล่าว โดยย้ำถึงแถลงการณ์ที่ตนเองได้ระบุหลังการประชุมนโยบายของเฟดในเดือนมิ.ย.ว่า เขาตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะดำรงตำแหน่งประธานเฟดไปจนครบวาระ 4 ปี

"ไม่มีอะไรต้องกลัว" นายเดวิด สกอตต์ ส.ส.พรรคเดโมแครตจากรัฐจอร์เจียกล่าวกับนายพาวเวลในระหว่างที่เขาแถลงต่อสภา "ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่สามารถไล่คุณออก และเราอยู่ในสภา ทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน เอาคุณกลับมาได้"

ด้านนายลาร์รี คุดโลว์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติประจำทำเนียบขาวกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ตำแหน่งงานของนายพาวเวลยังคงปลอดภัยในขณะนี้

"ผมจะพูดว่า ไม่ได้มีความพยายามที่จะปลดนายพาวเวล และ ผมจะระบุอย่างชัดเจนว่า ในเวลานี้ว่า เขายังคงปลอดภัย" นายคุดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์กล่าวในงาน Capital Exchange ของซีเอ็นบีซี

กฎหมายธนาคารกลางสหรัฐปี 2456 กำหนดว่า คณะกรรมการผู้ว่าการเฟด ซึ่งนายพาวเวลล์ในฐานะประธาน ก็เป็น 1 ใน 7 ของคณะกรรมการดังกล่าวนั้น จะถูกปลดออกจากตำแหน่งก็ต่อเมื่อมีสาเหตุ

ขณะที่กฎหมายดังกล่าวไม่ได้ตีความว่าหมายถึงอะไร แต่ศาลตีความว่า ผู้ว่าการจะต้องมีความผิดในข้อหากระทำผิดเพราะความประมาท กระทำการผิดพลาด หรือละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ขณะที่ไม่มีความชัดเจนว่า มาตรฐานดังกล่าวนั้นจะบังคับใช้กับวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปีของนายพาวเวลหรือไม่

ทั้งนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายพาวเวลได้แถลงต่อวุฒิสภาในวันพฤหัสบดีเหมือนกับที่เขาแถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพุธ

นายพาวเวลกล่าวว่า ความไม่แน่นอนจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและการค้า ยังคงถ่วงกิจกรรมและแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในสิ้นเดือนนี้ เมื่อคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดจัดประชุมนโยบายการเงินอีกครั้งในวันที่ 30-31 ก.ค.นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ