นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของฝรั่งเศสแสดงความหวังว่า กลุ่มผู้นำประเทศสมาชิกกลุ่ม G7 จะเห็นพ้องกันในเรื่องการเก็บภาษีดิจิทัลสากล ในการประชุมซัมมิตที่ฝรั่งเศสในเดือนหน้า
นายเลอ แมร์กล่าวว่า "เราหวังว่าระหว่างนี้จนถึงสิ้นเดือนส.ค. การประชุม G7 ในบิอาร์ริตซ์จะได้ข้อสรุป"
"ความท้าทายที่เราต้องเอาชนะ คือเศรษฐกิจดิจิทัลซึ่งไม่ถูกเรียกเก็บภาษีในระดับเดียวกับเศรษฐกิจอื่น" นายเลอ แมร์กล่าว
ทั้งนี้ ออสเตรีย อังกฤษ สเปน และอิตาลี ได้ประกาศแผนที่จะเรียกเก็บภาษีดิจิทัลของตนเอง
นายเลอ แมร์อธิบายถึงความจำเป็นที่ต้องเก็บภาษีจากบริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ว่า "มันเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของเราที่จะเรียกเก็บภาษีดิจิทัลอย่างเท่าเทียมกันทั่วโลก"
นายเลอ แมร์ชี้ว่า การเก็บภาษีดิจิทัลจากบริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่นั้นเป็นการตัดสินใจระดับชาติที่รัฐบาลพึงกระทำ แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐจะขู่เรียกเก็บภาษีเพื่อตอบโต้การกระทำดังกล่าว
ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า "ถ้าจะมีใครเรียกเก็บภาษีบริษัทเหล่านั้น ก็ควรจะเป็นประเทศของบริษัทนั้น ซึ่งก็คือสหรัฐ เราจะประกาศมาตรการแลกเปลี่ยนอย่างเป็นรูปธรรมต่อความผิดพลาดของมาครองในไม่ช้า ผมพูดมาเสมอว่าไวน์ของสหรัฐนั้นดีกว่าไวน์ของฝรั่งเศส"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ฝรั่งเศสได้ประกาศเรียกเก็บภาษี 3% ต่อบริษัทดิจิทัลที่มีรายได้จากการให้บริการด้านดิจิทัลทั่วโลกอย่าง 750 ล้านยูโร (835 ล้านดอลลาร์) และมีรายได้ในฝรั่งเศสเกินกว่า 25 ล้านยูโร (27 ล้านดอลลาร์)
มาตราการเรียกเก็บภาษีดังกล่าว คาดว่าจะสามารถเก็บภาษีได้ 400 ล้านยูโร (445 ล้านดอลลาร์) ในปีนี้ และเพิ่มเป็น 650 ล้านยูโร (723 ล้านดอลลาร์) ภายในปี 2565
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า "ฝรั่งเศสไม่ควรทำแบบนี้ เพราะว่าผมจะเรียกเก็บภาษีไวน์จากฝรั่งเศสเป็นการตอบโต้"
สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เริ่มการสอบสวนฝรั่งเศสในวันที่ 10 ก.ค. ภายใต้ มาตรา 301 ของกฎหมายการค้าสหรัฐปี 2517 โดยกล่าวหาว่ารัฐบาลฝรั่งเศส มีเป้าหมายในการเรียกเก็บภาษีอย่างไม่เป็นธรรมต่อบริษัทเทคโนโลยีบางแห่งของสหรัฐ
USTR จะทำประชาพิจารณ์ในวันที่ 19 ส.ค. ภายหลังการสอบสวน โดยจะให้สาธารณชนสามารถแสดงความเห็นต่อมาตรการแบบเดียวกัน