World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 1 สิงหาคม 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 1, 2019 09:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงหนักสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในอนาคต แม้คณะกรรมการเฟดได้ตัดสินใจลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 11 ปี

-- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ตามคาด ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. 2551 โดยเฟดระบุว่าความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อในระดับต่ำของสหรัฐ เป็นสาเหตุสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

อย่างไรก็ดี นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้แถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ของเฟดในการประชุมล่าสุดนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของมาตรการที่เฟดกำลังดำเนินการอยู่ เพื่อปรับให้เข้ากับสภาวะเศรษฐกิจ พร้อมกับกล่าวว่า การผ่อนคลายนโยบายการเงินเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการซึ่งเริ่มขึ้นในช่วงต้นปีนี้ ซึ่งในขณะนั้น เฟดได้เปลี่ยนแปลงจุดยืนจากเดิมที่ตั้งใจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ไปสู่การใช้ท่าที"ที่มีความอดทน"

-- ทำเนียบขาวระบุว่า สหรัฐและจีนจะเปิดการเจรจาการค้ารอบใหม่ในเดือนก.ย.นี้ที่กรุงวอชิงตัน โดยทั้งสองฝ่ายมีการหารือกันเกี่ยวกับการให้จีนซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐมากขึ้น ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการเจรจาของสหรัฐ

ด้านกระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์วานนี้ว่า "ทั้งสองฝ่ายมีการเจรจาที่สร้างสรรค์ และมีประสิทธิภาพ โดยมีการหารือเกี่ยวกับประเด็นการค้า และเศรษฐกิจที่เป็นผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย"

-- พนักงานอัยการของสหรัฐได้ตั้งข้อหากับนายจงเทียน หลิว เจ้าสัวประธานบริษัท China Zhongwang Holdings ในข้อหาหลบเลี่ยงภาษีนำเข้าอลูมิเนียมมูลค่า 1.8 พันล้านดอลลาร์

แหล่งข่าวระบุว่า นายจงเทียนและพนักงานในบริษัทได้โกหกเจ้าหน้าศุลกากรเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าอลูมิเนียมแบบอัดรีดที่นำเข้ามาจากประเทศจีน ซึ่งมีการตรากฎหมายไว้ในปี 2554

-- รมว.ต่างประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ออกโรงเตือนว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในทะเลจีนใต้อย่างต่อเนื่องนั้นได้ "บั่นทอนความเชื่อมั่น" และทำลายเสถียรภาพของภูมิภาค

ในวันเดียวกันนั้น นายหวัง อี้ รมว.ต่างประเทศจีน ได้เปิดเผยร่างจรรยาบรรณซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อบริหารจัดการความขัดแย้งบริเวณน่านน้ำที่ตกเป็นข้อพิพาทมานานหลายสิบปี

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยดัชนี CPI อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 1% ติดต่อกันเป็นเวลา 7 เดือน ซึ่งทำสถิติยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2558

รายงานระบุว่า ราคาสินค้าเกษตร ปศุสัตว์ และประมง ปรับตัวลง 0.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งมีส่วนทำให้ดัชนี CPI ในเดือนก.ค.ปรับตัวลงในอัตราส่วน 0.02%

-- ธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 2.5% ในวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายปี 2551 หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% ในการประชุมวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.2551

ทั้งนี้ นโยบายการเงินของฮ่องกงมีความสอดคล้องกับนโยบายการเงินของเฟด เนื่องจากดอลลาร์ฮ่องกงผูกติดกับดอลลาร์สหรัฐในช่วง 7.75-7.85 ต่อดอลลาร์

-- รัฐบาลสหรัฐประกาศแผนอนุญาตให้ชาวอเมริกันสามารถซื้อยาตามใบสั่งแพทย์จากแคนาดาเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

"รัฐบาลได้ประกาศแผนการนำเข้ายาตามใบสั่งแพทย์เพื่อให้ราคายาลดลง และลดค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยชาวอเมริกัน" นายอเล็กซ์ อาซาร์ รมว.สาธารณสุขสหรัฐกล่าวในแถลงการณ์

-- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า คนว่างงานในยูโรโซนที่อยู่ในวัยหนุ่มสาวมีจำนวนราว 2.251 ล้านคนในเดือนมิ.ย. ส่วนคนว่างงานในสหภาพยุโรป (EU) ที่อยู่ในวัยหนุ่มสาวมีจำนวน 3.176 ล้านคน

ทั้งนี้ คนว่างงานในยูโรโซนที่อยู่ในวัยหนุ่มสาวมีจำนวนลดลง 179,000 คนในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ส่วนคนว่างงานใน EU ที่อยู่ในวัยหนุ่มสาวมีจำนวนลดลง 239,000 คน

-- ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 112,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าการจ้างงานของภาคเอกชนจะเพิ่มขึ้น 150,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.

-- นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 165,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 3.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี

-- นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ โดยมาร์กิตเตรียมเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ค.ของฝรั่งเศส เยอรมนี อียู อังกฤษ และสหรัฐ ขณะที่ทางการสหรัฐเตรียมเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และการใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนมิ.ย.

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานการประชุม, ออสเตรเลียเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย. ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค., ดุลการค้าเดือนมิ.ย., ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานมิ.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ