World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 5 สิงหาคม 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 5, 2019 08:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า สงครามการค้าที่ยืดเยื้อระหว่างสหรัฐและจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อวันศุกร์ (2 ส.ค.) ขณะที่ตลาดหุ้นต่างๆในเอเชียเปิดร่วงลงในวันนี้ โดยดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดร่วงลง 438.11 จุด หรือ 1.63% ขณะที่ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดลบ 177.18 จุด หรือ 0.84%

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% คิดเป็นมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย. ขณะที่จีนได้ประกาศที่จะดำเนินมาตรการตอบโต้ที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิของตนเอง และระบุว่า การตัดสินใจของปธน.ทรัมป์ที่จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีกนั้น เป็นการกระทำที่ไม่มีเหตุผล และไม่รับผิดชอบ

-- เหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกงมีแนวโน้มบานปลาย โดยรายงานล่าสุดระบุว่า กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมากวางแผนชัตดาวน์ฮ่องกงด้วยการปักหลักชุมนุมอย่างต่อเนื่องในวันนี้ หลังจากที่ได้เดินประท้วงตามท้องถนนในย่านเจิ้งกวนโอในเขตนิวเทร์ริทอรีส์ในวันอาทิตย์ พร้อมกับเชิญชวนให้ประชาชนออกมาร่วมการประท้วงครั้งใหญ่ในวันนี้

รายงานระบุว่า ผู้ประท้วงจำนวนมากที่เป็นพนักงานบริษัทเอกชนได้วางแผนที่จะลากิจหรือลาป่วยเพื่อเข้าร่วมการชุมนุมในวันนี้ โดยคาดว่าการประท้วงจะส่งผลกระทบต่อเส้นทางจราจรเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ คาดว่าจะส่งผลกรทบต่อการดำเนินงานที่สนามบิน โดยล่าสุด สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค ได้ประกาศยกเลิกเที่ยงบินกว่า 140 เที่ยวทั้งขาเข้าและขาออก และขอให้ผู้โดยสารเลื่อนการเดินทางที่ไม่จำเป็น

-- จับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลียในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% สู่ระดับ 1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่ธนาคารกลางได้ปรับลดดอกเบี้ยไปแล้วในการประชุมเดือนมิ.ย.และก.ค.

นายฟิลิป โลว์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียได้ส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก เพื่อป้องกันผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง โดยระบุว่า ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจโลก อันเนื่องมาจากข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีนนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อการลงทุน

-- -สำนักข่าว IRNA ของทางการอิหร่าน รายงานว่า กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) ได้เข้ายึดเรือบรรทุกน้ำมันต่างชาติลำหนึ่งในอ่าวเปอร์เซีย โดยอ้างว่าเรือดังกล่าวลักลอบขนส่งน้ำมันให้ชาติอาหรับบางประเทศ นอกจากนี้ ทางการอิหร่านยังได้คุมตัวลูกเรือที่ประจำการอยู่บนเรือดังกล่าว 7 ราย

เหตุการณ์ดังกล่าวมีขึ้น หลังเมื่อเดือนที่ผ่านมา กองทัพเรืออังกฤษได้ยึดเรือบรรทุกน้ำมัน Grace 1 ของอิหร่านในช่องแคบยิบรอลตาร์ เนื่องจากต้องสงสัยว่าเรือลำดังกล่าวเตรียมส่งน้ำมันให้กับซีเรีย ซึ่งถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรซีเรียของสหภาพยุโรป (EU) จนกระทั่งในอีกสองสัปดาห์ถัดมา อิหร่านได้ยึดเรือบรรทุกน้ำมัน Stena Impero ในช่องแคบฮอร์มุซ โดยอ้างว่าเรือบรรทุกน้ำมันของอังกฤษละเมิดกฎการเดินเรือ

-- เกิดเหตุกราดยิง 2 ครั้งในสหรัฐเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผ่าน โดยเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าวอลมาร์ทในเมืองเอลพาโซ รัฐเท็กซัส มีผู้เสียชีวิตกว่า 20 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 26 ราย ส่วนเหตุการณ์ที่ 2 เกิดขึ้นที่เมืองเดย์ตัน รัฐโอไฮโอของสหรัฐ มีผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บอีก 16 ราย

-- นายอีลอน มัสก์ นักธุรกิจและมหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทเทสลา ประกาศแผนเปิดตัวบริษัทเดอะ บอริ่ง คอมพานี ในจีนในเดือนนี้ โดยบริษัทดังกล่าวดำเนินธุรกิจอุโมงค์ใต้ดินที่มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาเครือข่ายขนส่งใต้ดินความเร็วสูง ซึ่งนายมัสก์เชื่อว่าจะทำความเร็วได้ดีกว่ารถไฟความเร็วสูงที่ใช้กันทุกวันนี้

ทั้งนี้ นายอีลอน มัสก์ จะประกาศเปิดตัวบริษัทดังกล่าวในจีนอย่างเป็นทางการ ที่การประชุมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์สากล ซึ่งจะมีขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้วันที่ 29-31 สิงหาคมนี้

-- นายโทชิมิตสึ โมเตกิ รัฐมนตรีเศรษฐกิจญี่ปุ่นเปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐส่งสัญญาณว่าอาจจะยินยอมในการเจรจาการค้ากับญี่ปุ่น เพื่อให้สองประเทศสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้เร็วขึ้น

หลังการประชุมระดับรัฐมนตรี 2 วันในกรุงวอชิงตัน นายโมเตกิได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การหารือเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าทวิภาคีมีความคืบหน้าเป็นอย่างดี โดยเขาและนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนค้าสหรัฐได้ตกลงที่จะประชุมกันอีกครั้งในปลายเดือนนี้

ทั้งนี้ ความเห็นของนายโมเตกิบ่งชี้ว่า ทั้งสองประเทศอาจบรรลุข้อตกลงกันได้ภายในสิ้นเดือนส.ค.นี้

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ โดยเกาหลีใต้เตรียมเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนก.ค. ขณะที่ไฉซินเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ค.ของจีน อินโดนีเซียเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2562 ทางด้านมาร์กิตเตรียมเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนก.ค.ของฝรั่งเศส เยอรมนี อียู และอังกฤษ ทางด้านสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการเดือนมิ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นเตรียมเผยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนมิ.ย. ออสเตรเลียเผยดุลการค้าเดือนมิ.ย. ขณะที่เยอรมนีเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิ.ย. ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนมิ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ