World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 6 สิงหาคม 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday August 6, 2019 09:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,717.74 จุด ดิ่งลง 767.27 จุด หรือ -2.90%

-- กระทรวงการคลังสหรัฐออกแถลงการณ์ระบุว่า จีนปั่นค่าเงิน และทางสหรัฐจะร่วมมือกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพื่อขจัดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมจากจีน

แถลงการณ์ของกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ยืนยันว่า จีนได้กระทำการปั่นค่าเงิน ด้วยการปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าลงต่ำกว่าระดับ 7 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ แตะที่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี

"จีนมีประวัติอันยาวนานในการแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราด้วยการปล่อยให้เงินหยวนมีมูลค่าต่ำเกินจริง และเมื่อไม่กี่วันมานี้ จีนได้ใช้มาตรการเชิงรุกด้วยการปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าลงอีก ในขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาเม็ดเงินจำนวนมากในระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ แม้ว่าจีนได้ใช้เครื่องมือต่างๆเหล่านั้นในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม" แถลงการณ์ของกระทรวงการคลังสหรัฐระบุ

-- ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 200 จุดในช่วงเช้านี้ตามเวลาไทย บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวลงต่อในคืนนี้ หลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐออกแถลงการณ์ระบุว่า จีนปั่นค่าเงิน ซึ่งถือเป็นการใช้คำเจาะจงดังกล่าวครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2537 และอาจเปิดทางให้สหรัฐใช้มาตรการคว่ำบาตรจีนรอบใหม่ ในขณะที่ข้อพิพาทการค้าระหว่างสองประเทศยังคงตึงเครียดในขณะนี้

ณ เวลา 08.20 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 257 จุด หรือ 1.01% แตะที่ระดับ 25,293 จุด

-- สำนักข่าวยอนฮัปรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของคณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ (JCS) ว่า เกาหลีเหนือได้ยิงจรวดไม่ทราบชนิดจำนวน 2 ลูก จากจังหวัดฮวังเกตอนใต้ ลงสู่ทะเลฝั่งตะวันออก ในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งเป็นการยิงจรวดครั้งที่ 4 ภายในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์

ทั้งนี้ JCS ออกแถลงการณ์ว่า กองทัพเกาหลีใต้กำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าเกาหลีเหนือจะยิงจรวดอีกหรือไม่ และทางกองทัพยังคงอยู่ในสถานะที่พร้อมรับมือ

-- หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงานว่า รัฐบาลจีนจะจัดการแถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ฮ่องกงในวันนี้ ซึ่งนับเป็นการแถลงครั้งที่ 2 ในรอบหลายสัปดาห์

นักรัฐศาสตร์รายหนึ่งแสดงความเห็นว่า จีนขาดทางเลือกที่ดีสำหรับการรับมือกับความไม่สงบในฮ่องกง และอาจขอคำแนะนำจากกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่สำคัญในฮ่องกงเพื่อซื้อเวลา

-- นักลงทุนที่มองหาแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยได้พากันเข้าซื้อสกุลเงินบิตคอยน์ ขณะที่หลักทรัพย์ต่างๆ อาทิ พันธบัตรรัฐบาลและทองคำปรับตัวสูงขึ้น หลังจากจีนได้ทำการตอบโต้สหรัฐในสงครามการค้า แต่สกุลเงินคริปโตหลักๆ ก็ปรับตัวขึ้นด้วยเช่นกัน โดยนักลงทุนมองสกุลเงินคริปโตว่าเป็นแหล่งลงทุนหลบภัยมากขึ้นในช่วงเวลาที่เลวร้าย โดยเงินบิตคอยน์พุ่งขึ้นมากกว่า 14% และเงินขนาดเล็กกว่า อาทิ XRP และ Litecoin ต่างก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 5% ส่วนเงินฟรังก์สวิสพุ่งขึ้นนำสกุลเงินของกลุ่ม G-10 จากแรงซื้อสกุลเงินปลอดภัย ซึ่งก็ได้ช่วยหนุนราคาทองคำขึ้นด้วยเช่นกัน

-- ผลสำรวจนักวิเคราะห์บ่งชี้ว่า ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) อาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ หลังปรับลดในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่นายฟิลิป โลว์ ผู้ว่าการ RBA ได้เปิดโอกาสสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก โดยเขาจะรอดูผลของการปรับลดดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมาต่อภาวะเศรษฐกิจออสเตรเลีย โดยเฉพาะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ฟื้นตัว ส่วนในวันพรุ่งนี้นั้น นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเช่นกัน

-- ธนาคารเอชเอสบีซี ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรปเมื่อพิจารณาในแง่สินทรัพย์ ได้ประกาศปลดนายจอห์น ฟลินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออกจากตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่า ทางธนาคารจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ระดับบนสุด เพื่อรับมือกับความท้าทายที่กำลังเผชิญอยู่

นอกจากนี้ เอชเอสบีซี ยังประกาศแผนการปลดพนักงาน 2% ทั่วโลก หรือ 4,000 ตำแหน่งในปีนี้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายของธนาคาร โดยส่วนใหญ่จะเป็นการปลดเจ้าหน้าที่ในระดับสูง ขณะที่ธนาคารคาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินชดเชยราว 650-700 ล้านดอลลาร์

-- สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า จีนได้ระงับการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐแล้ว และจีนอาจเรียกเก็บภาษีจากสินค้าเกษตรของสหรัฐซึ่งจีนได้ซื้อมาก่อนหน้านี้

"บริษัทที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีนได้ระงับการซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐแล้ว และคณะกรรมการภาษีศุลกากรของสภาแห่งรัฐของจีนไม่ได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ในการเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าเกษตรของสหรัฐที่จีนได้ซื้อมาหลังจากวันที่ 3 ส.ค. โดยจีนมีตลาดขนาดใหญ่ และมีแนวโน้มที่สดใสในการนำเข้าสินค้าเกษตรคุณภาพสูงจากสหรัฐ แต่จีนหวังว่าสหรัฐจะทำตามฉันทามติที่ได้ให้ไว้ในการประชุมระหว่างผู้นำของจีนและสหรัฐ และสร้างภาวะที่เอื้อต่อความร่วมมือในด้านการเกษตรระหว่างประเทศทั้งสอง" รายงานระบุ

-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดการณ์ว่า การค้าโลกจะฟื้นตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยในช่วง 2-3 ไตรมาสข้างหน้า ท่ามกลางความเสี่ยงจากสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น

รายงานของ ECB ระบุว่า การขยายตัวของการค้าโลกจะถูกกดดันจากแนวโน้มที่ซบเซาของการลงทุนในหลายประเทศ

รายงานบ่งชี้ว่า ความเสี่ยงในช่วงขาลงต่อแนวโน้มการค้าโลกได้ปรากฎอย่างชัดเจนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จากการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้า ขณะที่มีความเสี่ยงที่ความตึงเครียดทางการค้าจะมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ โดยญี่ปุ่นเตรียมเผยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนมิ.ย. ออสเตรเลียเผยดุลการค้าเดือนมิ.ย. ขณะที่เยอรมนีเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิ.ย. ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนมิ.ย.

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เยอรมนีจะเปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย., จีนจะเปิดเผยข้อมูลทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนก.ค. และสหรัฐจะเปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ