World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 6 สิงหาคม 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday August 6, 2019 16:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงการคลังสหรัฐออกแถลงการณ์ระบุว่า จีนปั่นค่าเงิน และทางสหรัฐจะร่วมมือกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพื่อขจัดการแข่งขันที่เอาเปรียบและไม่เป็นธรรมของจีน

-- กลุ่มอดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) 4 คนซึ่งได้แก่ พอล โวล์คเกอร์, อลัน กรีนสแปน, เบน เบอร์นันเก้ และเจเน็ต เยลเลน ได้เปิดเผยผ่านบทความในหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ ควรดำเนินงานอย่างเป็นอิสระ ไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลการเมือง

-- องค์การสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือทุ่มเงินประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่พัฒนาโครงการการโจมตีทางไซเบอร์เพื่อขโมยข้อมูลจากธนาคารและตลาดซื้อขายสกุลเงินคริปโต

-- กระทรวงฝ่ายกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า ยอดการใช้จ่ายภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ในเดือนมิ.ย. โดยได้แรงหนุนจากความต้องการแพคเกจทัวร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงวันหยุดฤดูร้อน และจากยอดซื้อทีวีที่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน

-- โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนได้ออกมาเรียกร้องให้สหรัฐหยุดแทรกแซงเหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกง โดยเน้นย้ำว่าชาวฮ่องกงไม่ควรเมินค่าของระบบการปกครองแบบ "หนึ่งประเทศ สองระบบ" ต่ำเกินไป พร้อมกับยืนยันที่จะปกป้องความรุ่งเรืองและเสถียรภาพในฮ่องกง

-- ธนาคารกลางออสเตรเลียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.0% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% หลังจากที่ได้ปรับลดดอกเบี้ยไปแล้วในการประชุมเดือนมิ.ย.และก.ค.

-- กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ ประกาศในวันนี้ว่า สหรัฐยกเลิกการให้วีซ่ากับชาวเกาหลีใต้และประเทศอื่นๆทีมีประวัติเดินทางไปยังเกาหลีเหนือนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2554

-- กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนีเพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบกับตัวเลขประมาณการที่ 0.5% โดยได้แรงหนุนจากความต้องการสินค้าทุนจากนอกเขตยูโรโซน แต่ยอดสั่งซื้อดังกล่าวยังคงต่ำกว่าปีที่แล้ว 3.6%

-- ธนาคารกลางจีนได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า จีนไม่เข้าข่าย "ปั่นค่าเงิน" ตามเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังสหรัฐกำหนดไว้ พร้อมทั้งกล่าวว่า การกระทำของสหรัฐนั้น เป็นการกระทำเพียงฝ่ายเดียวและแสดงถึงการกีดกันการค้า ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อกติกาสากล และจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจและตลาดการเงินโลก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ