World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 19 สิงหาคม 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 19, 2019 09:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 306.62 จุด หรือ 1.20% เมื่อวันศุกร์ (16 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.56% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1.49%

-- ตลาดการเงินทั่วโลกจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันที่ 23 ส.ค.นี้ โดยนักลงทุนคาดหวังว่า นายพาวเวลจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

สำหรับการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในปีนี้ จะขึ้นในระหว่างวันที่ 22-24 ส.ค. ภายใต้หัวข้อ "ความท้าทายสำหรับนโยบายการเงิน (Challenges for Monetary Policy)"

-- นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันที่ 21 ส.ค.นี้ โดยในการประชุมเมื่อวันที่ 30-31 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการเฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25%

อย่างไรก็ดี นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้แถลงต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมในครั้งนั้น "การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นการป้องกันความเสี่ยงในช่วงขาลงเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ และเพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อ เรามองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นเพียงการปรับเปลี่ยนนโยบายในช่วงกลางวัฏจักร ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์ต่อเป้าหมายทั้งหมดของเฟด"

นักลงทุนและนักวิเคราะห์ต่างมองว่า แถลงการณ์ดังกล่าวของนายพาวเวลไม่ได้ให้การรับประกันว่าเฟดจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในอนาคต ซึ่งส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลง 333.75 จุด หรือ 1.23% ในการซื้อขายวันที่ 31 ก.ค.

-- กลุ่มผู้ประท้วงชาวฮ่องกงจำนวนมากได้ปักหลักชุมนุมท่ามกลางสายฝนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการประท้วงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 11 โดยแกนนำการประท้วงพยายามที่จะปรับกลยุทธ์ให้การชุมนุมดำเนินไปอย่างสงบ เนื่องจากการประท้วงด้วยความรุนแรงที่สนามบินเมื่อสัปดาห์ที่แล้วส่อแววว่าจะทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้รับเสียงสนับสนุนจากสาธารณชนลดลง

องค์กร Civil Human Rights Front ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดการชุมนุม ระบุว่า มีประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงกว่า 1.7 ล้านคน ซึ่งเป็นหนึ่งในการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การประท้วงได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา

-- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เปิดเผยว่า ตนไม่เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญที่จะเผชิญภาวะถดถอย แม้ตลาดพันธบัตรทั่วโลกปรับตัวอย่างผันผวน พร้อมยืนยันว่า ข้อพิพาททางการค้ากับจีนนั้นไม่ได้สร้างความเสียหายต่อสหรัฐ

ปธน.ทรัมป์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลัง "ไปได้สวยมาก" เพราะประชาชนมีเงิน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากนโยบายปรับลดภาษี

สำหรับประเด็นการค้ากับจีนนั้น ปธน.ทรัมป์ เปิดเผยว่า ตนยังไม่พร้อมที่จะทำข้อตกลงในขณะนี้ แม้เชื่อว่ารัฐบาลจีนพร้อมแล้วก็ตาม เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐอยากให้จีนจัดการเรื่องสถานการณ์ความไม่สงบในฮ่องกงก่อน ซึ่งปธน.ทรัมป์ ต้องการให้จีนจัดการสถานการณ์ดังกล่าวอย่างมีมนุษยธรรม และถ้าจีนทำได้ก็จะดีต่อการทำข้อตกลงกับสหรัฐ

ด้านนายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ก็ได้แสดงความคิดเห็นในทางเดียวกันว่า เศรษฐกิจสหรัฐไม่มีความเสี่ยงที่จะถดถอยเช่นเดียวกัน ส่วนในเรื่องการเจรจาการค้ากับจีนนั้น ตัวแทนการค้าจากทั้งสองประเทศจะมีการหารือในอีก 10 วันข้างหน้า และหากการเจรจาดังกล่าวเป็นไปได้ด้วยดีแล้ว ตนก็จะเชิญจีนมาที่สหรัฐเพื่อเจรจาต่ออีกครั้งเพื่อหาข้อสรุปให้ได้

-- China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนในวันนี้อยู่ที่ระดับ 7.0365 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 0.0053 หยวน จากระดับของวันศุกร์ที่ 7.0312 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

-- นายฮามิด บาอิดิเนจาด เอกอัคราชทูตอิหร่านประจำประเทศอังกฤษ ยืนยันว่า เรือบรรทุกน้ำมันของอิหร่านที่ถูกทางการอังกฤษยึดไว้ก่อนหน้านี้ ได้ถูกปล่อยจากยิบรอลตาสู่ทะเลสากลแล้ว โดยเอกอัคราชทูตอิหร่านประจำประเทศอังกฤษได้ยืนยันเรื่องดังกล่าวผ่านทางบัญชีโซเชียลมีเดีย

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ยิบรอลตา ซึ่งเป็นดินแดนภายใต้อาณัติของอังกฤษ ได้ปล่อยเรือ Grace 1 ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันของอิหร่านที่ถูกกองทัพเรืออังกฤษยึดไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากต้องสงสัยว่าได้ลำเลียงน้ำมันไปยังซีเรีย ซึ่งถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรป

-- นายบอริส จอห์สัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษเตรียมเดินทางเยือนฝรั่งเศสและอังกฤษในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่า จะมีการเจรจาเรื่องข้อตกลงใหม่ภายใต้การถอนตัวของอังกฤษจากสหภาพยุโรป (Brexit) การเดินทางเยือนทั้ง 2 ประเทศครั้งนี้ ถือเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรี ก่อนหน้าที่อังกฤษจะถอนตัวจากสหภาพยุโรปในวันที่ 31 ต.ค.นี้ ไม่ว่าจะได้มีการสรุปข้อตกลงกันหรือปราศจากข้อตกลงในเรื่อง Brexit ก็ตาม

-- โกลบอล ไทม์ส ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลจีนได้รายงานว่า บริษัทบัญชีชั้นนำของฮ่องกงจำนวน 4 บริษัทไม่ได้ดำเนินการอย่างเพียงพอที่จะจัดการกับพนักงานของบริษัทที่สนับสนุนการประท้วงในฮ่องกง ภายหลังจากที่การประท้วงได้ยืดเยื้อมาตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา

สื่อจีนเผยพนักงานของบริษัทบัญชีทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ KPMG, Ernst & Young, Deloitte และ PricewaterhouseCoopers ได้ลงโฆษณาเพื่อสนับสนุนการประท้วงในนสพ.แอปเปิ้ล เดลี่ ของฮ่องกง ขณะที่บริษัทเหล่านี้ได้ออกแถลงการณ์เพื่อแสดงให้เห็นว่าบริษัทไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงโฆษณาดังกล่าว

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้าเดือนก.ค.ที่ระดับ 2.496 แสนล้านเยน หรือประมาณ 2.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนยอดส่งออกในเดือนก.ค.ลดลง 1.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าเดือนก.ค.ลดลง 1.2%

ทางด้านยูโรสแตทเตรียมเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อของอียูในวันนี้ เวลา 16.00 น.ตามเวลาไทย

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลียเปิดเผยรายงานการประชุม ในเวลา 08.30 น.ตามเวลาไทย และเยอรมนีเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. ในเวลา 13.00 น.ตามเวลไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ