ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 300 จุดในช่วงเช้านี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศตอบโต้จีนด้วยการประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 5% จากสินค้านำเข้าของจีนมูลค่ารวมทั้งสิ้น 5.50 แสนล้านดอลลาร์
ณ เวลา 06.09 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลง 304 จุด หรือ 1.18% แตะที่ระดับ 25,366 จุด
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า สหรัฐจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2.50 แสนล้านดอลลาร์ เป็น 30% จาก 25% ในปัจจุบัน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบ 70 ปีของการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้ประกาศปรับขึ้นภาษีที่ได้วางแผนไว้สำหรับสินค้าจีนวงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์ เป็น 15% จาก 10% ด้วย โดยจะเริ่มเก็บภาษีผลิตภัณฑ์บางส่วนตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. และเลื่อนการเก็บภาษีสินค้าดังกล่าวราวครึ่งหนึ่งไปเป็นวันที่ 15 ธ.ค.
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ได้ปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน เพื่อตอบโต้จีนที่ประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษี 5-10% จากสินค้านำเข้าของสหรัฐวงเงิน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการเก็บภาษี 2 รอบ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย. และ 15 ธ.ค. นอกจากนี้ จีนจะเรียกเก็บภาษี 25% ต่อรถยนต์นำเข้าจากสหรัฐ และเก็บภาษี 5% ต่อชิ้นส่วนรถยนต์สหรัฐ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 ธ.ค.
-- สเตฟานี กริสแฮม โฆษกประจำทำเนียบขาว ออกมาชี้แจงว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ไม่ได้รู้สึกเสียใจที่ได้ประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน แต่ปธน.ทรัมป์รู้สึก "ลังเล" ว่าตนควรตอบโต้จีนให้มากกว่านี้ พร้อมขอให้สื่ออย่าตีความถ้อยแถลงของปธน.ทรัมป์ผิดไปจากที่เขาตั้งใจไว้
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้น หลังปธน.ทรัมป์ ได้พบปะกับนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ในการประชุม G7 เมื่อวานนี้ โดยเขาถูกสื่อถามว่าตนรู้สึกลังเลที่ได้ทำสงครามการค้ากับจีนหรือไม่ ซึ่งปธน.ทรัมป์ ตอบว่า "ใช่ ผมรู้สึก ทำไมจะรู้สึกไม่ได้ล่ะ" และได้ตอบอีกครั้งว่า "ผมก็รู้สึกลังเลกับทุกเรื่องแหละครับ"
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ดำเนินมาตรการตอบโต้จีนในการทำสงครามการค้าครั้งล่าสุดด้วยการประกาศปรับขึ้นภาษีอีก 5% จากสินค้านำเข้าของจีนมูลค่ารวมทั้งสิ้นราว 5.50 แสนล้านดอลลาร์
-- เหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกงส่อเค้ายืดเยื้อและมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น โดยรายงานล่าสุดระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงปืนและระดมฉีดน้ำเพื่อสลายการชุมนุมเมื่อคืนวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นการใช้อาวุธครั้งแรกนับ ในขณะที่การประท้วงย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 12
-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยย้ำว่า เฟดจะดำเนินการเพื่อให้เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวต่อไป ขณะที่ยอมรับว่า การทำสงครามการค้า และปัจจัยอื่นๆ กำลังทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง
อย่างไรก็ดี นายพาวเวลไม่ได้ส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในการกล่าวสุนทรพจน์วันนี้ โดยเขากล่าวแต่เพียงว่า เฟดจะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
นอกจากนี้ นายพาวเวลไม่ได้ระบุถึงการเกิดภาวะ inverted yield curve ในสุนทรพจน์ของเขา รวมทั้งไม่ได้ระบุถึงการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ทำข้อตกลงในหลักการเกี่ยวกับการค้า และทั้งสองประเทศมีเป้าหมายที่จะลงนามในข้อตกลงการค้าในเดือนก.ย.นี้
รายงานระบุว่า ผู้นำทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการค้าสินค้าด้านการเกษตรและอุตสาหกรรม แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงมีบางประเด็นที่จะต้องร่วมมือกันในระดับคณะทำงาน
-- China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนในวันนี้อยู่ที่ระดับ 7.0570 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.0002 หยวนต่อดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 7.0572 หยวนต่อดอลลาร์
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ โดยญี่ปุ่นจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมิ.ย. ขณะที่เยอรมนีเตรียมเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนส.ค.จากสถาบัน Ifo ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค. และดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนก.ค.จากเฟดชิคาโก
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค. ขณะที่จีนเตรียมเปิดเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. เยอรมนีเตรียมเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยราคาบ้านเดือนมิ.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จาก Conference Board