ทำเนียบขาวยัน"ทรัมป์"ไม่ได้สั่งบริษัทสหรัฐถอนตัวจากจีนทันที เผยแค่แนะให้ลองหาแหล่งใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 26, 2019 11:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้ออกมาชี้แจงว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ไม่ได้มีแผนที่จะใช้อำนาจฉุกเฉินเพื่อสั่งบริษัทสหรัฐถอนตัวจากจีนโดยทันที โดยทั้งสองได้ให้สัมภาษณ์คนละรายการ แต่มีเนื้อหาในทิศทางเดียวกันว่า ปธน.ทรัมป์ เพียงแค่เสนอให้บริษัทเหล่านี้มองหาแหล่งผลิตใหม่ หรือถ้าให้ดีก็กลับมาผลิตสินค้าในสหรัฐ

ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความเมื่อวันศุกร์ว่า เขาได้สั่งให้บริษัทสหรัฐรีบถอนตัวออกจากจีนโดยทันที เพื่อหาแหล่งผลิตใหม่ โดยให้กลับมาผลิตสินค้าในสหรัฐ

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังสั่งให้บริษัทรับส่งพัสดุภัณฑ์ทั้งหมดของสหรัฐ ซึ่งรวมถึง FedEx, UPS, อเมซอน และสำนักงานไปรษณีย์สหรัฐ ปฏิเสธการส่งยา Fentanyl (ยาบรรเทาอาการปวด และมีความแรง 50-100 เท่าของมอร์ฟีน) จากประเทศจีน หรือจากประเทศอื่นๆ เข้ามาในสหรัฐ

"ประเทศของเราได้สูญเสียเงินหลายล้านล้านดอลลาร์แก่จีนเป็นเวลาหลายปี พวกเขาได้ปล้นทรัพย์สินทางปัญญาของเราคิดเป็นเงินหลายแสนล้านดอลลาร์ต่อปี และพวกเขาต้องการทำสิ่งนี้ต่อไป แต่ผมจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น เราไม่จำเป็นต้องมีจีน และจะดีกว่า ถ้าไม่มีจีน โดยเงินจำนวนมากที่จีนขโมยไปจากสหรัฐปีแล้วปีเล่า เป็นเวลาหลายทศวรรษ จะต้องยุติลง"

"ดังนั้น ผมขอสั่งให้บริษัทอเมริกันที่ยิ่งใหญ่ของเราถอนตัวจากจีนโดยทันที และให้เริ่มต้นหาแหล่งผลิตสินค้าใหม่ ซึ่งรวมถึงนำบริษัทของคุณกลับบ้าน และผลิตสินค้าในสหรัฐ ผมจะตอบโต้ต่อการเรียกเก็บภาษีของจีนในบ่ายวันนี้ นี่เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของสหรัฐ"

"นอกจากนี้ ผมยังได้สั่งให้บริษัทรับส่งพัสดุภัณฑ์ทั้งหมดของสหรัฐ ซึ่งรวมถึง FedEx, UPS, อเมซอน และสำนักงานไปรษณีย์สหรัฐ ให้ค้นหา และปฏิเสธการส่งยา Fentanyl (ยาบรรเทาอาการปวด และมีความแรง 50-100 เท่าของมอร์ฟีน) จากประเทศจีน หรือจากประเทศอื่นๆ โดยยา Fentanyl ฆ่าชาวอเมริกัน 100,000 คนต่อปี ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเคยบอกว่าจะระงับการส่งยานี้เข้ามายังสหรัฐ แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้น"

"เศรษฐกิจของเราใหญ่กว่าของจีนมาก หลังจากที่เรามีการขยายตัวในช่วง 2 ปีครึ่งปีที่ผ่านมา และเราจะรักษาให้เป็นเช่นนี้ต่อไป" ข้อความในทวิตเตอร์ของทรัมป์ระบุ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ