World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 13 กันยายน 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 13, 2019 08:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า เขาจะพิจารณาการทำข้อตกลงการค้าฉบับชั่วคราวกับจีน

ปธน.ทรัมป์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวก่อนที่จะเดินทางไปยังเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ ในวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐว่า เขาต้องการทำข้อตกลงการค้าฉบับสมบูรณ์กับจีน อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังเปิดทางที่จะทำข้อตกลงการค้าฉบับชั่วคราวกับจีน

การที่ปธน.ทรัมป์ได้ออกมาพูดเช่นนี้ ถือเป็นการสร้างความชัดเจนว่า รัฐบาลสหรัฐอาจพิจารณาทำข้อตกลงการค้าฉบับชั่วคราวกับจีน หลังจากที่ก่อนหน้านี้สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ที่ปรึกษาของปธน.ทรัมป์กำลังพิจารณาทำข้อตกลงการค้าชั่วคราว แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวรายหนึ่งได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าวในเวลาต่อมา

-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จัดการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB สู่ระดับ -0.50% จากเดิมที่ระดับ -0.40% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%

นอกจากนี้ ECB ระบุว่า จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบันต่อไป หรือปรับลดลง จนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ใกล้ แต่ไม่เกินระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของ ECB

ขณะเดียวกัน ECB แถลงว่า จะรื้อฟื้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนพ.ย. ซึ่ง ECB จะซื้อพันธบัตรในวงเงิน 2 หมื่นล้านยูโร/เดือน โดยยังไม่มีกำหนดเวลาสิ้นสุดโครงการ

-- นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลในยูโรโซนใช้มาตรการทางการคลังเสริมเข้ากับมาตรการทางการเงินของ ECB เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน

"เมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และความเสี่ยงในช่วงขาลงอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลต่างๆจึงควรใช้มาตรการทางการคลังอย่างมีประสิทธิภาพ และอย่างทันเวลา โดยทุกประเทศจะต้องใช้ความพยายามในการใช้จ่ายทางการคลังเพื่อสร้างการขยายตัวทางเศรษฐกิจ" เขากล่าว

-- นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐอาจทำการออกพันธบัตรอายุ 50 ปีอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า ขณะที่รัฐบาลมองหาแหล่งระดมทุนที่มีต้นทุนต่ำ และมีกำหนดเวลาในการชำระคืนในระยะยาว สำหรับการชำระหนี้ของประเทศ

-- คณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก ซึ่งรวมถึงรัสเซีย ได้จัดการประชุมที่กรุงอาบูดาบีเมื่อวานนี้ เพื่อหารือสถานการณ์ล่าสุดของตลาดน้ำมันโลก

อย่างไรก็ดี ในการประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมไม่ได้พิจารณาการเพิ่มการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันแต่อย่างใด แต่จะมีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวในการประชุมโอเปกที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในเดือนธ.ค.นี้

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความเมื่อคืนนี้ว่า จีนจะเริ่มซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐในจำนวนมาก

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์ของจีนแถลงว่า บริษัทของจีนได้เริ่มสอบถามราคาสินค้าเกษตรของสหรัฐ ซึ่งรวมทั้งถั่วเหลือง และเนื้อสุกร หลังจากที่จีนได้ระงับการซื้อสินค้าดังกล่าวจากสหรัฐในเดือนที่แล้ว เพื่อตอบโต้ต่อการที่ปธน.ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน

-- สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนจะพบปะกันในสัปดาห์หน้าเพื่อเจรจาการค้า

นายหลิวกล่าวว่า ประเด็นต่างๆที่จะมีการหารือกัน รวมถึง ดุลการค้า การเข้าถึงตลาด และการคุ้มครองนักลงทุน

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. โดยได้รับแรงกดดันจากการดิ่งลงของราคาพลังงาน

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 15,000 ราย สู่ระดับ 204,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 215,000 ราย โดยการลดลงของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้ว ถือเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.

-- ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ สหรัฐมีกำหนดรายงานยอดค้าปลีกเดือนส.ค. และราคานำเข้าและส่งออกเดือนส.ค. เวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย ต่อด้วยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. เวลา 21.00 น.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ