การค้าระหว่างจีนและสหรัฐเริ่มส่งสัญญาณด้านบวก หลังจากมีรายงานว่า จีนได้สั่งนำเข้าถั่วเหลืองจำนวน 600,000 ตันจากสหรัฐในวันนี้ หลังการเจรจาการค้าในระดับรัฐมนตรีช่วยระหว่างสหรัฐและจีนที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ ถั่วเหลืองจำนวน 600,000 ตันดังกล่าว ถือเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่ที่จีนปรับเพิ่มภาษีที่เรียกเก็บจากถั่วเหลืองที่นำเข้าจากสหรัฐสู่ระดับ 25% ในเดือนก.ค.ปีที่แล้ว เพื่อตอบโต้สหรัฐที่ได้เพิ่มภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน
-- ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเป็นไปอย่างผันผวนเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กขยับขึ้นเพียง 0.06% ขณะที่ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.80% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของยูโรโซน หลังจากไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซน ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.4 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 75 เดือน จากระดับ 51.9 ในเดือนส.ค. โดยถูกกดดันจากการชะลอตัวลงของการจ้างงานและทิศทางราคา ประกอบกับภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นลดลง
-- ขณะที่จีนเตรียมฉลองครบรอบ 70 ปีของการปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในวันที่ 1 ต.ค.นี้นั้น ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนก็กำลังเผชิญกับปัญหาต่างๆ อาทิ สงครามการค้าที่ยืดเยื้อระหว่างจีนกับสหรัฐ, การประท้วงในฮ่องกง, ราคาเนื้อหมูที่พุ่งขึ้น และการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนที่ชะลอลงมากที่สุดในรอบหลายสิบปี
ทั้งนี้ แม้ว่าจีนสามารถควบคุมต้นทุนอาหารบางส่วนได้ แต่ก็ยังคงมีปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุม ขณะเดียวกันการแก้ปัญหาทางการค้าใดๆ กับสหรัฐก็ยังคงต้องใช้เวลา และการประท้วงในฮ่องกงก็ยังไม่มีสัญญาณว่าจะยุติลง
-- บริษัทแอปเปิล อิงค์เปิดเผยว่า คอมพิวเตอร์แมค โปร รุ่นใหม่ของแอปเปิลจะประกอบขึ้นในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส หลังรัฐบาลสหรัฐอนุมัติคำร้องของแอปเปิลในการยกเว้นภาษีนำเข้า 25% สำหรับชิ้นส่วนหลายชนิดที่นำเข้าจากจีน ซึ่งรวมถึงโปรเซสเซอร์, ส่วนประกอบไฟฟ้า และฝาครอบคอมพิวเตอร์
ขณะที่ชิ้นส่วนประกอบที่สำคัญบางอย่างจะผลิตในจีนและส่งออกมายังสหรัฐเพื่อทำการประกอบขั้นสุดท้ายนั้น แอปเปิลระบุว่า เครื่องแมค โปร รุ่นใหม่จะมีค่าชิ้นส่วนที่ผลิตในสหรัฐ 2.5 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนที่ผลิตในออสตินตั้งแต่ปี 2556 และจะรวมชิ้นส่วนประกอบที่ผลิตโดยบริษัทสหรัฐมากกว่า 12 แห่งในรัฐต่างๆ อาทิ นิวยอร์ก, เวอร์มอนต์ และอาริโซน่า เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าในสหรัฐ
-- การล้มละลายของบริษัทโทมัส คุก ซึ่งประกอบธุรกิจทัวร์ของอังกฤษเมื่อวานนี้นั้น ทำให้มีความเสี่ยงที่จะมีคนตกงาน 21,000 ตำแหน่ง และมีนักท่องเที่ยวมากกว่า 150,000 คนตกค้างอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งได้มีการเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษเข้ามาช่วยส่งตัวนักท่องเที่ยวกลับประเทศครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์
อย่างไรก็ตาม นักเก็งกำไร อาทิ บริษัทโซน่า แอสเซท แมเนจเมนต์ และ บริษัทเอ็กซ์เอไอเอ อินเวสเมนต์ ซึ่งลงทุนในตราสารอนุพันธ์ซึ่งจะจ่ายเงินให้กับผู้ถือเมื่อบริษัทผิดนัดชำระหนี้นั้น ได้รับเงินมากถึง 250 ล้านดอลลาร์จากการล้มละลายของโทมัส คุก
โทมัส คุก เป็นบริษัทรายใหญ่ล่าสุดในปีนี้ที่จ่ายเงินให้กับกองทุนประกันความเสี่ยงหรือเฮดจ์ ฟันด์และเทรดเดอร์ซึ่งได้เข้าซื้อตราสาร CDS (credit-default swaps) เพื่อประกันความเสี่ยง ขณะที่คาดว่าอาจจะมีการซื้อตราสาร CDS จำนวนมากขึ้นตามมาอีก เนื่องจากเศรษฐกิจยุโรปชะลอตัวลง และบริษัทจำนวนมากเผชิญกับแรงกดดัน
-- บริษัทซัมซุง อิเลคทรอนิคส์ แถลงในวันนี้ว่า ทางบริษัทจะเปิดตัว Galaxy Fold ในตลาดสหรัฐวันที่ 27 ก.ย. โดยก่อนหน้านี้ ซัมซุงมีกำหนดเปิดตัว Galaxy Fold ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนแบบพับได้ ในราคา 2,000 ดอลลาร์ในวันที่ 26 เม.ย. แต่ได้ถูกเลื่อนออกไป หลังการทดสอบพบปัญหาจอแตก และบางครั้งมีปัญหาจอดับ หรือเกิดการกะพริบที่หน้าจอ
ซัมซุงเปิดเผยว่าทางบริษัทได้ทำการแก้ไขปัญหาเหล่านี้แล้ว ขณะที่มีการวางจำหน่ายในตลาดต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.
-- Densus 88 ซึ่งเป็นหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายของอินโดนีเซีย สามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 9 รายในกรุงจาการ์ตาที่มีส่วนพัวพันกับกลุ่มก่อการร้าย
นอกจากนี้ ตำรวจยังยึดปืนไรเฟิล และวัตถุระเบิดซึ่งผู้ต้องสงสัยเตรียมไว้ใช้ในการก่อเหตุโจมตีสถานีตำรวจหลายแห่ง
ผู้ต้องสงสัยทั้งหมดเป็นสมาชิกของขบวนการเจมาห์ อันชารุต ดอเลาะห์ (JAD) ซึ่งมีความภักดีต่อกลุ่มรัฐอิสลาม (IS)
-- นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กกล่าวว่า เฟดได้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เกิดความผันผวนต่ออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนในสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางสภาพคล่องที่ตึงตัว
นายวิลเลียมส์ยืนยันว่า ขณะนี้ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขแล้ว แต่เตือนว่าตลาดอาจตึงตัวอีกครั้งในวันที่ 30 ก.ย. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของไตรมาส 3 โดยเฟดจะเตรียมอัดฉีดเม็ดเงินรองรับความต้องการสภาพคล่องในตลาด
-- นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศต่างๆ ในวันนี้ โดยเกาหลีใต้เตรียมเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค., ญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ค., เยอรมนีเตรียมเปิดเผยความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.ย.จากสถาบัน Ifo และ สหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนก.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จาก Conference Board
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานการประชุม และ สหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.