World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 4 ตุลาคม 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 4, 2019 08:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้น 122.42 จุด หรือ 0.47% เมื่อคืนนี้ ขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศษฐกิจให้ฟื้นตัว หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งรวมถึงข้อมูลล่าสุดที่ระบุว่าดัชนีภาคบริการร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี

-- จับตาตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ คาดปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐ ขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้

-- สื่อหลายสำนักของฮ่องกงรายงานว่า รัฐบาลฮ่องกงจะใช้คำสั่งฉุกเฉินเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปีเพื่อสั่งห้ามใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าในการรวมตัวในที่สาธารณะ

สถานีโทรทัศน์ทีวีบีรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลฮ่องกงเตรียมนำคำสั่งฉุกเฉินมาใช้เป็นครั้งแรกนับแต่ปี 2510 ด้านรัฐบาลฮ่องกงยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใด ๆ ต่อรายงานข่าวดังกล่าว

-- คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (KVKK) ของตุรกีเปิดเผยในวันนี้ว่า ทางการตุรกีได้สั่งปรับบริษัทเฟซบุ๊ก เป็นเงิน 1.6 ล้านลีรา (282,000 ดอลลาร์) โทษฐานละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลซึ่งกระทบประชาชนเกือบ 300,000 คน

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความเมื่อคืนนี้ว่า คำตัดสินขององค์การการค้าโลก (WTO) ซึ่งให้ความเห็นชอบต่อข้อเรียกร้องของสหรัฐในการเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากยุโรปวงเงิน 7.5 พันล้านดอลลาร์ ถือเป็น"ชัยชนะที่สวยงาม"ของสหรัฐ

คณะอนุญาโตตุลาการของ WTO มีมติเห็นชอบต่อรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากยุโรป โดยระบุว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส และสเปน ให้การอุดหนุนอย่างผิดกฎหมายต่อบริษัทแอร์บัส

-- นายดาเนียล โรซาริโอ โฆษกคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) กล่าวว่า EU พร้อมตอบโต้สหรัฐ หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากยุโรปตามคำตัดสินขององค์การการค้าโลก (WTO)

-- นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขภาคบริการของสหรัฐที่อ่อนแอ

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาสสูงถึง 90% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 30-31 ต.ค. และมีแนวโน้ม 50% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหนึ่งในเดือนธ.ค.

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องให้จีนทำการสอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ ในข้อหาคอร์รัปชั่น หลังจากที่เขาได้เคยเรียกร้องเช่นกันต่อรัฐบาลยูเครนให้เข้าสอบสวนนายไบเดน และบุตรชายของเขา ซึ่งมีการทำธุรกิจในยูเครน

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาเชื่อว่าจีนและยูเครนควรเข้าตรวจสอบนายไบเดน และบุตรชายของเขา

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 219,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 215,000 ราย

ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐร่วงลงแตะระดับ 52.6 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2559 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 55.3 จากระดับ 56.4 ในเดือนส.ค.

ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.9 ในเดือนก.ย. จากระดับ 50.7 ในเดือนส.ค. โดยดัชนี PMI มีการเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 3 ปี

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลง 0.1% ในเดือนส.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.2% หลังจากพุ่งขึ้น 1.4% ในเดือนก.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงในภาคขนส่ง ขณะที่คำสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์ดิ่งลง 17.1% หลังจากทะยานขึ้น 52.2% ในเดือนก.ค. ส่วนคำสั่งซื้อคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ลดลงเช่นกัน

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ สหรัฐมีกำหนดรายงานดุลการค้าเดือนส.ค. และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย. เวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย ผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งระบุว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 145,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.7%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ