นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส เปิดเผยว่า ขณะนี้เฟดยังไม่เดินหน้าเข้าวงจรปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเต็มตัว เพราะต้องการดูสถานการณ์ต่อไปว่า การชะลอตัวลงของการค้าโลกจะกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐนอกเหนือจากการผลิตและการลงทุนหรือไม่
ประธานเฟดดัลลัส เปิดเผยว่า ทางคณะกรรมการกำหนดนโยบายกำลังพิจารณาว่า ผลกระทบที่การชะลอตัวลงทางการค้ามีต่อเศรษฐกิจสหรัฐนั้นปรากฎให้เห็นในภาคส่วนอื่น ๆ นอกเหนือจากการผลิตและการลงทุนหรือไม่ โดยในส่วนของผู้บริโภคยังคงแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ควรชะล่าใจ
นอกจากนี้ นายแคปแลน เปิดเผยว่า การที่เฟดปรับลดดอกเบี้ยในเดือนก.ค.และก.ย. ไม่ได้หมายความว่าเฟดจะเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ยเต็มตัว แต่เป็นเพียงการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์
ทั้งนี้ รายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ของเฟด ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องถึงความจำเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.00% ในการประชุมซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 17-18 ก.ย.ที่ผ่านมา และยังเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการหารือกันในเร็วๆนี้ว่า เฟดควรจะเพิ่มขนาดของงบดุลหรือไม่
รายงานยังเปิดเผยว่า กรรมการเฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐ โดยระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจเผชิญกับความเสี่ยงขาลงมากขึ้นนับตั้งแต่ที่เฟดจัดการประชุมในเดือนก.ค. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเสี่ยงที่เป็นผลมาจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าและภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก
ขณะเดียวกันกรรมการเฟดยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยกรรมการเฟดหลายคนมองว่า โอกาสที่เศรษฐกิจจะเผชิญกับภาวะถดถอยนั้น ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา