Spotlight: สภาอังกฤษไฟเขียวเลือกตั้ง 12 ธ.ค. ผู้เชี่ยวชาญชี้ "บอริส จอห์นสัน" ต้องชนะเท่านั้นจึงจะสามารถผลักดัน Brexit

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 30, 2019 14:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สภาสามัญชนหรือสภาล่างของอังกฤษลงมติเห็นชอบต่อญัตติจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ โดยจะเป็นการเลือกตั้งที่อังกฤษจัดขึ้นในเดือนธ.ค. เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 100 ปี

ประชาชนมากกว่า 46 ล้านคนในอังกฤษ, สกอตแลนด์, เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ จะเข้าร่วมในการเลือกตั้งรัฐสภาในเดือนธ.ค.เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2466

สภาสามัญชนลงมติด้วยคะแนนเสียง 438 เสียงเห็นชอบต่อญัตติจัดการเลือกตั้งในวันที่ 12 ธ.ค. ขณะที่ 20 เสียงไม่เห็นชอบต่อข้อเสนอของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษที่ขอให้รัฐสภาอนุมัติจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด

ชัยชนะที่สำคัญสำหรับนายกรัฐมนตรี

นายจอห์นสันเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งในวันที่ 12 ธ.ค. แต่ญัตติของพรรคแรงงานซึ่งเป็นฝ่ายค้านต้องการให้เลือกตั้งเร็วขึ้นในวันที่ 9 ธ.ค.

ทั้งนี้ ญัตติของพรรคแรงงานพ่ายแพ้ในการลงมติ โดยมีเสียงสนับสนุน 295 เสียง และเสียงคัดค้าน 315 เสียง ซึ่งนับเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับนายจอห์นสัน หลังจากที่เขาประสบความพ่ายแพ้ในสภาสามัญชนหลายครั้งในการลงมติเกี่ยวกับกระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) นับตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่งในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา

แม้ว่าญัตติดังกล่าวจะต้องได้รับการอนุมัติจากสภาขุนนางหรือสภาสูงของอังกฤษในสัปดาห์นี้ และจะต้องได้รับความยินยอมจากสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธก่อนที่จะประกาศเป็นกฎหมายนั้น แต่การที่ญัตติได้ผ่านการอนุมัติญัตติอย่างรวดเร็วในสภาสามัญชนถือเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า ญัตติดังกล่าวจะไม่เผชิญกับอุปสรรคอีกต่อไป

สมาชิกสภาจากพรรคฝ่ายค้านยังได้ผลักดันญัตติที่ตั้งใจจะให้สิทธิในการลงคะแนนเสียงกับพลเมืองของสหภาพยุโรป (EU) จำนวน 3.4 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในอังกฤษ รวมถึงการลดข้อจำกัดด้านอายุผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงลงจาก 18 ปี เป็น 16 ปี เพื่อให้คนหนุ่มสาวอีกหลายล้านคนได้มีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง

นายลินด์เซย์ ฮอยล์ รองประธานสภาสามัญชนได้ปฏิเสธญัตติทั้งสองดังกล่าว

ขณะที่สื่อมวลชนจำนวนหนึ่งในลอนดอนกล่าวว่า นายจอห์นสันเตรียมพร้อมที่จะยกเลิกแผนการเลือกตั้งโดยสิ้นเชิง หากมีการเห็นชอบญัตติของพรรคฝ่ายค้าน

อย่างไรก็ดี นายฮอยล์ยอมรับญัตติที่เสนอโดยนายแคท สมิธ ส.ส.พรรคแรงงานที่ต้องการให้จัดเลือกตั้งในวันที่ 9 ธ.ค. แทนที่จะเป็นวันที่ 12 ธ.ค.ตามที่นายจอห์นสันเสนอ แต่ญัตติดังกล่าวไม่ผ่านความเห็นชอบ

ทั้งนี้ การเลือกตั้งทั่วประเทศในอังกฤษส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีในเดือนพ.ค.

รัฐสภาอังกฤษจะปิดสมัยประชุมในกลางสัปดาห์หน้าเพื่อปูทางสำหรับการเลือกตั้งทั่วประเทศ

การเลือกตั้งเพื่อ Brexit

การเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่นี้คาดว่าจะมุ่งเน้นไปที่ข้อตกลง Brexit ของนายจอห์นสันเป็นหลัก เพื่อให้อังกฤษถอนตัวจากการเป็นสมาชิก EU ในวันที่ 31 ม.ค.หรือเร็วกว่านั้น หากรัฐสภาชุดใหม่สนับสนุนกฏหมายการถอนตัวออกจาก EU

ความพยายามของนายจอห์นสันในการผลักดันกระบวนการ Brexit เท่ากับเป็นการขัดขวางการเรียกร้องของพรรคฝ่ายค้านให้มีการลงประชามติครั้งที่สอง หรือยกเลิกแผน Brexit โดยสิ้นเชิง

นายจอห์น เคอร์ทิซ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเลือกตั้งจากมหาวิทยาลัยสแตรธไคลด์กล่าวกับสถานีวิทยุ LBC ในลอนดอนเมื่อวานนี้ว่า ผลการเลือกตั้งมีทางเดียวคือ นายบอริส จอห์นสันต้องชนะเท่านั้น

นายเคอร์ติซคาดว่า พรรคอนุรักษ์นิยมของจอห์นสันจะประสบความล้มเหลวในการชนะเสียงส่วนใหญ่โดยรวม

"การคาดการณ์ที่ปลอดภัยที่สุดคือเราจะมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมและพรรคแรงงานจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ในรัฐสภานี้" นายเคอร์ติซกล่าว

เขากล่าวว่า พรรค Scottish National Party (SNP) มีแนวโน้มที่จะชนะการเลือกตั้งส่วนใหญ่ในสกอตแลนด์ ขณะที่คาดว่าพรรค Liberal Democrats ก็จะได้คะแนนเสียงจำนวนมาก ซึ่งหมายความว่า สมาชิกรัฐสภาชุดใหม่จำนวนมากกว่า 100 คน จะไม่ใช่สมาชิกของพรรคอนุรักษ์นิยมหรือพรรคแรงงาน

นายเคอร์ติซกล่าวว่า "ถ้านายจอห์นสันไม่ได้รับเสียงข้างมาก เขาก็จะไม่สามารถอยู่ในรัฐบาลได้ เพราะพรรคอนุรักษ์นิยมไม่มีพันธมิตรจากพรรคอื่นๆ"

หนังสือพิมพ์เดลี่ เทเลกราฟแสดงความคิดเห็นเมื่อวานนี้ว่า การเลือกตั้งทั่วไปในเดือนธ.ค.อาจเป็นประโยชน์สำหรับพรรคอนุรักษ์นิยม และจะได้เห็นพวกเขากลับไปเป็นรัฐบาลที่มีเสียงข้างมาก

ในขณะเดียวกัน รายงานของสื่อระบุว่า เมื่อคืนวานนี้ สำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษเริ่มรับส.ส.กบฏของพรรคอนุรักษ์นิยมจำนวน 10 คนกลับเข้าเป็นสมาชิกพรรคแล้ว หลังจากที่ส.ส.ทั้งหมด 21 คนถูกไล่ออกจากพรรคในช่วงฤดูร้อนปีนี้ หลังลงคะแนนเสียงคัดค้านรัฐบาลเกี่ยวกับ Brexit

ทั้งนี้ หากส.ส.กบฏที่พรรคอนุรักษ์นิยมรับกลับเข้ามาเป็นสมาชิกรัฐสภา ก็จะทำให้พรรคอนุรักษ์นิยมของนายจอห์นสันมีคะแนนเสียง 298 เสียงจาก 650 เสียง ขณะที่พรรคแรงงานมี 244 เสียง, พรรค SNP มี 35 เสียง, พรรค Liberal Democrats มี 19 เสียง และ พรรค Democratic Unionist Party (DUP) มี 10 เสียง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ