World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 31 ตุลาคม 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 31, 2019 09:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 115.27 จุด หรือ 0.43% เมื่อคืนนี้ (30 ต.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ทำนิไฮ ขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณพักวงจรการปรับลดดอกเบี้ย ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่า เฟดมีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจมากพอที่จะไม่ต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในระยะใกล้นี้

-- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติ 8-2 เสียง ปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในปีนี้

อย่างไรก็ดี เฟดส่งสัญญาณพักวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้ โดยแถลงการณ์จากการประชุมครั้งนี้ เฟดได้ถอดประโยคสำคัญออก ซึ่งระบุว่า "เฟดจะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน" โดยประโยคดังกล่าวได้ปรากฎในแถลงการณ์เฟดนับตั้งแต่การประชุมในเดือนมิ.ย.

-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมเฟดเสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ว่า การที่คณะกรรมการเฟดตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ มีเป้าหมายที่จะรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐให้แข็งแกร่งและสามารถรับมือกับความเสี่ยงต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งรวมถึงข้อพิพาทการค้า และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ในการแถลงข่าวครั้งนี้ นายพาวเวลได้ส่งสัญญาณพักวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยกล่าวว่า "เฟดจะยังคงรักษาจุดยืนด้านนโยบายการเงินอย่างเหมาะสม ตราบใดที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่เฟดจะได้รับในวันข้างหน้านั้น มีความสอดคล้องกับมุมมองของเฟดที่ว่าเศรษฐกิจมีการขยายตัวในระดับปานกลางและตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี หากเกิดสถานการณ์บางอย่างที่ทำให้เฟดจะต้องกลับมาประเมินแนวโน้มเศษฐกิจอีกครั้ง เฟดก็จะตอบสนองสถานการณ์นั้นๆเป็นรายกรณี โดยไม่มีการกำหนดนโยบายเอาไว้ล่วงหน้า"

-- กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงกับนายโจ โลว์ นักการเงินคนสนิทของนายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เพื่อนำเงินมูลค่าเกือบพันล้านดอลลาร์ที่ถูกฉกไปจากกองทุน 1MDB คืน

ทั้งนี้ นายโลว์ถูกกล่าวหาว่า เป็นบุคคลสำคัญในการทุจริตยักยอกเงินจากกองทุน 1MDB ซึ่งนายโลว์ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด

-- ประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเญร่า ผู้นำชิลี ประกาศยกเลิกการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่มีกำหนดจัดขึ้นในเมืองซานติอาโกในเดือนหน้า ท่ามกลางเหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้นในประเทศ

ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์กันว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน จะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกนอกรอบการประชุมเอเปค ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 16-17 พ.ย.

-- รัฐบาลฮ่องกงเตรียมเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของฮ่องกงมีแนวโน้มถดถอย หลังจากที่มีการประท้วงต่อเนื่องกันถึง 5 เดือน

นักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ของฮ่องกงมีแนวโน้มหดตัวลง 0.6% หลังจากที่ชะลอตัวลง 0.4% ในไตรมาสที่ 2

-- แหล่งข่าวระบุว่า นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เตรียมเจรจากับนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน นอกรอบการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนหน้าที่กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ นายหลี่จะเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียน-จีน (10+1) ครั้งที่ 22, การประชุมผู้นำอาเซียน-จีน, ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี (10+3) ครั้งที่ 22 และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกครั้งที่ 14

-- ธนาคารกลางแคนาดาประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.75% เมื่อวานนี้ ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ธนาคารกลางระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังคงอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่ธนาคารกลางรายงานในเดือนก.ค.

-- ดอยซ์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของเยอรมนี เปิดเผยว่า ธนาคารประสบภาวะขาดทุน 832 ล้านยูโร (924 ล้านดอลลาร์) ในไตรมาส 3 โดยได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้าง และรายได้ที่ลดลงจากการซื้อขายตราสารหนี้

ส่วนรายได้ลดลง 15% สู่ระดับ 5.3 พันล้านยูโร ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.6 พันล้านยูโร

-- บริษัทแอปเปิล อิงค์ เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 4/2562 ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย.2562 ตามปีงบการเงินของบริษัท โดยระบุว่า บริษัทมีกำไรในไตรมาสดังกล่าวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.4 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบรายปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 6.3 หมื่นล้านดอลลาร์

แอปเปิลเปิดเผยว่า การขยายตัวของผลกำไรทำให้กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 4% สู่ระดับ 3.03 ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับ 2.91 ดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

ส่วนยอดขายไอโฟนลดลงราว 9.2% สู่ระดับ 3.336 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับ 3.676 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนต.ค.อยู่ที่ระดับ 52.8 ร่วงลงจากระดับ 53.7 ในเดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 53.6

อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการของจีนยังคงมีการขยายตัว และหากดัชนี PMI เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จะบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคบริการ

ส่วนดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนต.ค. อยู่ที่ระดับ 49.3 ลดลงจากระดับ 49.8 ในเดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 49.8

ทั้งนี้ ดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนอยู่ในภาวะหดตัว และหากดัชนีเคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตมีการขยายตัว

-- กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เปิดเผยรายงานเบื้องต้นในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือนก.ย. ปรับตัวขึ้น 1.4% จากเดือนก่อนหน้า โดยการผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นฟื้นตัวขึ้นในเดือนก.ย. หลังจากที่หดตัวลง 1.2% ในเดือนส.ค.

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยอียูเตรียมเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2562 และอัตราว่างงานเดือนก.ย. ส่วนสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนก.ย. ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ย. รวมทั้งดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนต.ค.

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.ย., ไฉซินเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนต.ค.ของจีน ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนต.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนต.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ