นักลงทุนวิตกกังวลและสับสนต่อสัญญาณที่ขัดแย้งกันในเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่จีนมีความไม่มั่นใจเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าในระยะยาวกับสหรัฐ ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ว่า เขาจะประกาศสถานที่ซึ่งเขาจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับผู้นำจีนในอีกไม่ช้า
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความเมื่อคืนนี้ว่า ในอีกไม่ช้า เขาจะประกาศสถานที่ซึ่งเขาจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับผู้นำจีน
"จีนและสหรัฐกำลังดำเนินการร่วมกันในการคัดเลือกสถานที่ใหม่ในการลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรก ซึ่งจะมีเนื้อหา 60% ของข้อตกลงการค้าทั้งหมด หลังจากการประชุมเอเปคในชิลีได้ถูกยกเลิกไป และผมจะประกาศสถานที่ใหม่ในไม่ช้า ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงจะเป็นผู้ลงนามในข้อตกลงดังกล่าว" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
-- จับตาตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ คาดปรับตัวลดลงตามดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กซึ่งปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อทิศทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากทั้งสองฝ่ายได้ออกมาส่งสัญญาณที่ขัดแย้งกัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอของภาคการผลิตทั้งในสหรัฐและจีน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในคืนนี้
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ทวีตข้อความเมื่อคืนนี้ว่า กระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง ถือเป็นการล่าแม่มดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา
ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความดังกล่าว หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐให้การอนุมัติต่อการวางกรอบการไต่สวนอย่างเป็นทางการเพื่อถอดถอนปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง
ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรลงมติด้วยคะแนนเสียง 232-196 เสียง เห็นชอบต่อญัตติดังกล่าว ขณะที่ไม่มีสมาชิกพรรครีพับลิกันลงคะแนนเสียงสนับสนุน
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความเมื่อคืนนี้ เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แม้ว่าเฟดเพิ่งประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อวานนี้เป็นครั้งที่ 3 ของปีนี้
"ผู้คนรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่งต่อนายเจอโรม พาวเวล และเฟด โดยเฟดทำผิดพลาดตั้งแต่แรก โดยการคุมเข้มนโยบายการเงิน ขณะนี้ค่าเงินดอลลาร์ และอัตราดอกเบี้ยกำลังส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตของเรา โดยเราควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำกว่าเยอรมนี ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ ขณะนี้ เราเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและแข็งแกร่งที่สุด แต่เฟดทำให้เราตกอยู่ในฐานะเสียเปรียบ โดยจีนไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเรา แต่เฟดคือตัวปัญหา และเราจะชนะในที่สุด" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
-- ตำรวจฮ่องกงได้มีการปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อคืนนี้ซึ่งเป็นวันฮาโลวีน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงก๊าซน้ำตาใส่ผู้ประท้วง ขณะที่ผู้ประท้วงหลายรายใส่หน้ากากฮาโลวีนเนื่องในเทศกาลดังกล่าว และเป็นการประท้วงคำสั่งห้ามใส่หน้ากากในคราวเดียวกัน
-- รัฐบาลเขตปกครองพิเศษฮ่องกงเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ของฮ่องกงหดตัวลง 2.9% เมื่อเทียบรายปี โดยได้รับผลกระทบจากความไม่สงบที่เกิดจากการชุมนุมประท้วงรัฐบาล
นับเป็นครั้งแรกที่ฮ่องกงเผชิญภาวะเศรษฐกิจหดตัวรายไตรมาสเมื่อเทียบรายปีนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลกในปี 2552
-- กลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า นายอาบู บัคร์ อัล-บักดาดี ผู้นำ IS ได้เสียชีวิตแล้วจากการโจมตีของหน่วยปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐในซีเรีย
อย่างไรก็ดี IS ได้ประกาศที่จะโจมตีสหรัฐเพื่อล้างแค้นต่อการเสียชีวิตของนายบักดาดี
"จงระวังต่อการแก้แค้นที่จะมีต่อพวกนอกศาสนา เพื่อยกความอยุติธรรมออกจากผู้ถูกกดขี่ และเข้าใกล้พระเจ้าด้วยโลหิตของพวกนอกศาสนา" คลิปเสียงของกลุ่ม IS ระบุ
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 5,000 ราย สู่ระดับ 218,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 215,000 ราย
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% เช่นกันในเดือนส.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อรถยนต์ และการใช้จ่ายด้านการรักษาสุขภาพ
ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทรงตัวเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน โดยดัชนี PCE ถูกกดดันจากการร่วงลงของราคาพลังงาน และภาคบริการ ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ ทรงตัวในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ กระทรวงกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุนเปิดเผยในวันนี้ว่า อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นแตะระดับ 2.4% ในเดือนก.ย. จากระดับ 2.2% ในเดือนส.ค.
สหรัฐเตรียมเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. เวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 85,000-89,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 136,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ส่วนอัตราการว่างงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.6% จาก 3.5% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี
นักวิเคราะห์ระบุว่า การดิ่งลงของตัวเลขการจ้างงาน และการเพิ่มขึ้นของอัตราการว่างงาน มีสาเหตุจากการผละงานประท้วงเป็นเวลา 40 วันของพนักงานบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) จำนวน 46,000 คน ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐมองว่าพนักงานที่ทำการประท้วงโดยไม่ได้รับเงินเดือนจะถูกนับเป็นผู้ว่างงาน
หลังจากนั้น จะมีการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.จากมาร์กิต เวลา 20.45 น. ต่อด้วยดัชนีภาคการผลิตเดือนต.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เวลา 21.00 น.